
รองเท้าตาข่าย ใส่แล้วเย็น
รองเท้าตาข่าย ใส่แล้วเย็น ยืดหยุ่นเหนือระดับ คล่องตัวไปได้ทุกที่ กระชับเท้าทุกการเคลื่อนไหว
นวัตกรรมการผลิต รองเท้าตาข่าย ได้พัฒนามาจนถึงการผลิตรองเท้าที่เราใส่แล้วเย็นเท้า ใส่แล้วเดินสบายไม่เหม็นอับ ถือเป็นรองเท้าที่สบายเท้าที่สุด เนื่องจากสามารถใส่ในชีวิตประจำวันทั่วๆไปในการทำกิจกรรมต่างๆได้เป็นอย่างดี ทำให้เป็นที่นิยมอย่างมากเพราะนอกจากจะมีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์หลายๆอย่างแล้ว เรื่องของคุณภาพการผลิตและร้านตัวแทนจัดจำหน่าย ก็เป็นอีกสิ่งที่ลูกค้าไว้วางใจด้วย ซึ่งเรามีรายการรองเท้าตาข่ายชนิดนี้มาแนะนำคือ
• รองเท้าตาข่าย ใส่แล้วเย็นสบาย ยี่ห้อ Aquatwo รุ่น 957 – สีดำ ราคา 1,450 บาท
• รองเท้าตาข่าย ใส่แล้วเย็นสบาย ยี่ห้อ Aquatwo รุ่น 957 – สีน้ำตาล ราคา 1,450 บาท
• รองเท้าตาข่าย ใส่แล้วเย็นสบาย ยี่ห้อ Aquatwo รุ่น 957 – สีน้ำเงิน ราคา 1,450 บาท
คุณสมบัติที่โดดเด่นของรองเท้าตาข่าย
– สไตล์รองเท้ารู ระบายอากาศเต็มพิกัด
– ลุยได้ตามชอบใจ ไม่อับชื้น
– ผ่านการตรวจสอบ QC คุณภาพว่าดีจริง
– รองเท้าดีไซน์สวย เท่ห์ ใส่ได้ในชีวิตประจำวัน
– ลดปัญหารองเท้ากลิ่นเหม็นอับได้เป็นอย่างดี
– พื้นรองเท้าหนา กันลื่นได้ดี สามารถเดิน หรือปีนป่าย ตามพื้นผิวต่างๆได้
– ผลิตจากตาข่ายคุณภาพ ทำให้ลดแรงต้านในน้ำได้ดี
– การยึดเกาะของพื้นรองเท้าเหนียวแน่นแม้เดินในทางลาดชัน
มีหลากหลาย Size ให้คุณเลือก ดังนี้
เบอร์ EUR 39 ( 24.5 ซม.)
เบอร์ EUR 40 ( 25 ซม.)
เบอร์ EUR 41 ( 25.5 ซม.)
เบอร์ EUR 42 ( 26 ซม.)
เบอร์ EUR 43 ( 26.5 ซม.)
เบอร์ EUR 44 ( 27 ซม.)
เบอร์ EUR 45 ( 27.5 ซม.)
เบอร์ EUR 46 ( 28 ซม.)
เบอร์ EUR 47 ( 28.5 ซม.)
เบอร์ EUR 48 ( 29 ซม.)
ถือว่ารองเท้าแบบนี้ นอกจากจะเหมาะกับการใช้งานในสภาพภูมิประเทศและอากาศของเมืองไทยแล้ว ยังเหมาะกับการไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆตามแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ท่านชื่นชอบได้อีกด้วย นับว่ารองเท้าที่สามารถใช้ได้กับทุกๆพื้นที่เลยทีเดียว ทดสอบศักยภาพของรองเท้าด้วยตัวท่านเองที่ www.sportlifeonline.com
ข้อแนะนำการดูแลรองเท้าเบื้องต้น
1. ทำความสะอาดรองเท้าทุกครั้งหลังจากการสวมใส่ และพ่นสเปรย์รักษารองเท้าตามชนิดของวัสดุที่ใช้ทำรองเท้า
2. จัดเก็บรองเท้าในตู้เก็บหรือกล่องพลาสติกใสเพื่อกันฝุ่นและควรอยู่ในอุณหภูมิห้อง โดยวางรองเท้าไว้ให้ไกลจากเครื่องทำความอุ่น อาจยัดกระดาษเข้าไปในรองเท้าเพื่อให้กระดาษช่วยดูดซับความชื้นได้บ้าง
3. ใช้ที่ใส่รองเท้าช่วยในการสวมเข้าไปทุกครั้งเพื่อช่วยไม่ให้บริเวณส้นเท้าเสียรูปทรง
4. ห้ามเหยียบบริเวณส้นเท้าเวลาถอดรองเท้า เพื่อช่วยลดการเสียรูปทรง
5. ห้ามดึงบริเวณที่เป็นส่วนประกอบต่างๆที่เป็นรอยต่อรองเท้า แผ่นยาง หรือสิ่งประดับอย่างอื่น ในขณะทำการสวมใส่รองเท้า
สาระน่ารู้ การจัดการเบื้องต้นในการเลือกร้องเท้า
1. เลือกซื้อรองเท้าที่ลักษณะเหมือนรูปเท้าของผู้สวมใส่ และมีขนาดพอดี เช่น ผู้ที่ปลายเท้ากว้าง ก็ไม่ควรใส่รองเท้าที่หัวเล็ก แคบ ,คนที่ฝ่าเท้าแบน ควรสวมรองเท้าที่เสริมอุ้งเท้าเพื่อช่วยเส้นเอ็นพยุงอุ้งเท้า มีที่หุ้มด้านข้างและหลังเท้า เพื่อพยุงไม่ให้ส้นเท้าบิดและเท้าล้มเข้าด้านใน และมีพื้นนิ่มใส่สบาย, คนที่อุ้งเท้าสูง ควรเลือกรองเท้าที่มีพื้นนิ่มและมีความยืดหยุ่นช่วยเสริมอุ้งเท้าส่วนกลาง เพื่อช่วยกระจายน้ำหนักจากฝ่าเท้าด้านหน้าและส้นเท้า
2. รองเท้าทำจากวัสดุที่อ่อนนุ่มต่อเท้า ไม่มีตะเข็บแข็ง สามารถกันกระแทกและระบายอากาศได้ดี ควรเลือกใช้รองเท้าแบบที่สามารถปรับขนาดได้หรือมีความยืดหยุ่น เพราะจะทำให้สวมใส่ได้พอดี
3. ไม่คีบดีกว่า การใส่รองเท้าคีบทำให้เกิดการเสียดสีบริเวณร่องนิ้วเท้า ไม่เหมาะในบางคนที่เท้าชา ซึ่งอาจเกิดแผลโดยไม่รู้ตัว
4. ส้นรองเท้าต้องแข็งแรง ยืดหยุ่น เกาะพื้น ไม่ลื่นขณะเดิน
5. ทดลองใส่รองเท้าเดินทั้ง 2 ข้าง ทุกครั้งที่ซื้อ เพราะเท้าคนเราจะไม่เท่ากันเสมอ ควรเลือกรองเท้าที่ใส่ได้พอดีกับเท้าเรามากที่สุด และการเดิน ทำให้เราทราบว่าขณะเดินมีการเสียดสี หรือขนาดพอเหมาะกับเท้าหรือไม่
6. ควรเลือกซื้อรองเท้าช่วงบ่ายไปจนถึงค่ำ เพราะเท้าจะมีขนาดใหญ่ขึ้นเมื่อผ่านการเดินมาตลอดทั้งวัน เนื่องจากเลือดไหลเวียนลงสู่เท้ามากขึ้น จึงเหมาะที่จะเลือกรองเท้า เพื่อป้องกันปัญหารองเท้าคับแต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกิจกรรม และชีวิตประจำวันด้วย
7. แบนไปก็ไม่ดี ความแบนราบของพื้นรองเท้า ไม่เหมาะกับสรีระเท้าต่อการรับน้ำหนัก ดังนั้นหากใส่รองเท้าแตะ และรองเท้าที่มีลักษณะแบนควรเลือกรองเท้าชนิดที่มีพื้นนิ่ม และเสริมบริเวณอุ้งเท้า
8. วิธีกันเท้าพองจากการเดินมาก ให้เอาเจลทาดับกลิ่นตัว ทาที่รองเท้าก่อนใส่
9. วิธีบรรเทารองเท้ากัด หรือเท้าพอง ให้เอาเท้าไปแช่ในน้ำชาเขียวเพราะชาเขียวจะเป็นสารธรรมชาติป้องกันการติดเชื้อได้ดี
10. ผู้ป่วยโรคเบาหวาน คือผู้ที่ต้องใส่ใจกับสุขภาพเท้าเป็นอย่างมาก เพราะมักมีปลายประสาททำงานผิดปกติ ทำให้เท้าชา มีนิ้วเท้าหงิกงอ ทำให้ฝ่าเท้าด้านหน้ารับน้ำหนักมากและนิ้วเท้าเสียดสีกับหัวรองเท้า จึงควรเลือกใส่รองเท้าพื้นนิ่ม มีหัวลึกและกว้าง ห้ามใช้รองเท้าคีบ เพราะอาจทำให้เกิดแผลบริเวณร่องนิ้วเท้าได้โดยไม่รู้ตัว