
วิ่งให้ถูกหลักอนามัย เพื่อสุขภาพกายที่แข็งแรงอย่างยั่งยืน
วิ่งให้ถูกหลักอนามัย เพื่อสุขภาพกายที่แข็งแรงอย่างยั่งยืน
วิ่งให้ถูกหลักอนามัย เพื่อสุขภาพกายที่แข็งแรงอย่างยั่งยืน แม้ว่าการวิ่งนั้นจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและมีคุณประโยชน์ต่อเรามากเพียงใดก็ตาม แต่ความปลอดภัยจากการวิ่งนั้นก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะการวิ่งที่ถูกวิธีนั้นจะช่วยลดอุบัติเหตุที่จะเกิดระหว่างการวิ่ง และการเกิดอันตรายจากการวิ่งได้ ซึ่งเรามีข้อแนะนำดีๆมาฝากทุกท่านในการวิ่งออกกำลังกายให้ปลอดภัยกัน ดังนี้
ข้อแนะนำในการวิ่งอย่างไรให้ปลอดภัย
• ไม่ควรจะใส่หูฟังเพลงขณะวิ่ง เพราะท่านจะไม่ได้ยินเสียงแตรรถ เสียงเครื่องยนต์แม้กระทั่งเสียงฝีเท้าซึ่งจะเป็นอันตราย
• หากท่านวิ่งข้างถนนควรจะวิ่งสวนกับรถวิ่งเพื่อที่ท่านจะได้เห็นรถที่วิ่งสวนมา
• หากท่านวิ่งหัวค่ำหรือกลางคืนต้องใส่เสื้อสีสว่างหรือมีแทบสะท้อนแสง
• เมื่อวิ่งคู่กับรถ หรือทางแยก ท่านต้องให้รถไปก่อน อย่าวิ่งตัดหน้ารถ
• เมื่อถึงทางแยกต้องหยุดเพื่อมองว่ามีรถวิ่งมาหรือไม่ หากไม่มีจึงวิ่งข้าม
• หาเพื่อวิ่งด้วยกันเพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
• หากต้องวิ่งคนเดียวแนะนำให้วิ่งบนสายพานในสถานออกกำลังกาย
• หลีกเลี่ยงการวิ่งในที่ไม่ค้นเคยโดยเฉพาะหากต้องวิ่งในเวลาค่ำหรือกลางคืน
• อย่าใส่เครื่องแต่งกายราคาแพง
• ให้พกบัตรประจำตัวและบัตรโรคประจำตัวหรือคำแนะนำสำหรับผู้พบเห็น
• พกโทรศัพท์และเบอร์โทรฉุกเฉิน
• หลีกเลี่ยงคนที่ไม่คุ้นเคยหรือสถานที่ไม่คุ้นเคย หากจำเป็นต้องวิ่งอาจจะพกสเปรย์พริกไทย หรือนกหวีดติดตัวไปด้วยก็จะอุ่นใจได้มากขึ้น
ความปลอดภัยจากโรคในขณะวิ่ง
• ท่านที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง เช่นอายุมากกว่า 45 ปีและไม่เคยออกกำลัง อ้วน มีโรคเรื้อรังเช่น ความดัน เบาหวาน ท่านต้องปรึกษาแพทย์ก่อนออกกำลังกาย
• จะต้องมีการอบอุ่นร่างกายอย่างเพียงพอ
• ดื่มน้ำก่อนออกกำลังกาย 30 นาที
• หากมีอาการหน้ามืด เจ็บหน้าอก เหนื่อยงานให้หยุดออกกำลังและปรึกษาแพทย์
• ฟังสัญญาณร่างกายหากออกมากไปต้องหยุด
• สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานจะต้องปรึกษาแพทย์เรื่องการฉีดยาและการรับประทานอาหาร
สำหรับคนที่ไม่เคยวิ่งมาก่อน แต่สนใจการวิ่งออกกำลังกาย ควรปฏิบัติดังนี้
• ถ้าอายุมาก มีโรคร่วม และไม่เคยเล่นกีฬาอย่างอื่นมาก่อน ควรปรึกษาแพทย์ก่อน
• ควรซื้อรองเท้าวิ่งสักคู่ เพื่อป้องกันการบาดเจ็บของเท้าเลือกชุดวิ่งที่หลวมสบายไม่คับ และโปร่งบางเพื่อให้ระบายความร้อนได้ดี ขอแนะนำทุกท่านให้เลือกซื้อรองเท้าวิ่งที่เหมาะสมที่ www.sportlifeonline.com เพราะรองเท้าวิ่ง (Running Shoes) มีคุณสมบัติในการช่วยรับแรงกระแทกและกระจายน้ำหนักได้ดี โดยวัสดุที่ใช้รับแรงกระแทกบริเวณส้นเท้าควรจะมีคุณสมบัติพิเศษในการกระจายแรงกระแทกไปสู่ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายไม่ว่าจะเป็นเข่า ต้นขา น่องให้เหมาะสม รวมทั้งช่วยถ่ายเทน้ำหนักลงสู่พื้นได้ดีส่วนของรองเท้าชั้นนอกนั้นจะมีลักษณะบานกว้างออก เพื่อเพิ่มความมั่งคงในการทรงตัว ในการก้าวเท้าวิ่งช่วยเพิ่มสมรรถนะในการวิ่งเพื่อลดปริมาณการใช้งานของกล้ามเนื้อน่องและขารองเท้าลักษณะนี้จะถูกออกแบบให้เหมาะกับการเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างเดียว
• ไม่แนะนำให้ใส่ชุดวอร์มเพราะนั่นเหมาะสำหรับประเทศหนาว
• ควรเริ่มต้นด้วยการเดินให้เกิดความฟิตของเขา เดินจากช้าไปเร็ว จนเกิดความฟิตแล้วจึงค่อยๆ เพิ่มการวิ่งเข้าไปจนเกิดความฟิต คือ ไม่เหนื่อยหอบ แล้วจึงเพิ่มความเร็วตามต้องการ ต้องใช้เวลา อย่ารีบเร่งซึ่งอาจจะมีผลเสียต่อสุขภาพขณะวิ่งไม่ควรเหนื่อยหอบ ควรจะสนทนากับเพื่อนได้
• เวลาวิ่งเมื่อก่อนมีคำแนะนำให้ลงน้ำหนักที่ส้นเท้า แต่ปัจจุบันแนะนำให้ลงน้ำหนักที่ปลายเท้าทางด้านนิ้วก้อย แล้วโยกไปทางหัวแม่เท้า แล้วไปลงสู่ส้นเท้า วิธีนี้จะไม่กระแทกข้อเข่ามากเท่ากับวิธีเดิม
• บางคนกลัวข้อเข่าเสื่อมเสียหายจากการวิ่ง ถ้าเราทำไม่มากความเสียหายก็เกิดน้อย ถ้าไม่ทำเลยจะเสียหายต่อสุขภาพมากกว่า
• กายพร้อมใจพร้อม สำหรับผู้ที่ไม่ได้วิ่งเพื่อเป็นมืออาชีพ อาจจะฝึกฝนเพื่อมาราธอนการกุศล ลดน้ำหนักหรือแค่อยากให้สุขภาพดี ในช่วงแรกๆก็จะเหนื่อยเป็นพิเศษ ท้อได้ง่าย เทคนิคที่ช่วยในเรื่องกายภาพอาจจะพังทลายจากจิตใจได้ ผมจึงเอาเคล็ดลับที่ช่วยให้การกำลังกายของคุณดีต่อใจได้ด้วย
• ไปต่อด้วยรอยยิ้ม เมื่อท้อแท้จากความเหนื่อยล้าหรือพัฒนาการที่ช้ากว่าที่คิด ควรยิ้ม เวลาวิ่ง เพราะเคยมีงานวิจัยเรื่องรอยยิ้ม ว่าสามารถช่วยให้สภาพจิตใจดีขึ้นได้จริงๆ จากการยิ้มเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
• การฟังเพลงเป็นเรื่องที่นักวิ่งส่วนมากทำกันอยู่แล้วแต่การสร้างลิสต์หรืออัลบั้มที่เหมาะกับเราระหว่างวิ่งที่สุดก็จะช่วยได้ ไม่ว่าคุณจะฟังแนวไหนก็ดีทั้งนั้น เพลงที่ช่วยปลุกใจให้ฮึกเหิม หรือเพลงที่ช่วยลดการเต้นของหัวใจให้มีสมาธิกับตัวเองมากขึ้นก็ได้
• วิ่งกับเพื่อนก็ช่วย ถ้าไม่ใช่คนชอบฟังเพลง การวิ่งเป็นหมู่คณะก็ช่วยได้ นอกจากจะมีเพื่อนคุย มีคนพัฒนาไปพร้อมๆกัน อาจจะได้คนที่ช่วยให้เราพัฒนาไปได้ไวขึ้นด้วย ทั้งช่วยดูสรีระท่าทางของเราด้วยว่าทำถูกต้องหรือไม่
• ลงทุนกับชุดและอุปกรณ์ การใช้เงินซื้อของมาใช้ในการวิ่ง แม้จะเล็กน้อยก็สามารถช่วยให้สภาพจิตใจดีขึ้นได้แน่นอน ของเล็กน้อยๆอย่างที่เสียบมือถือ หูฟังสำหรับวิ่ง ชุดใหม่ หรือรองเท้าวิ่งดีดีสักคู่