
เรื่องน่ารู้ก่อนการเดินทางโดยสายการบิน
เรื่องน่ารู้ก่อนการเดินทางโดยสายการบิน
1.ทุกสายการบินจะกำหนดปิดให้บริการเช็คอินที่เคาน์เตอร์ 45 นาที ก่อนเครื่องออก
ท่านที่เดินทางบ่อยๆ มักจะทราบกันดีว่าสายการบินส่วนใหญ่นั้นจะปิดให้เช็กอินที่เคาน์เตอร์ก่อนเวลาเครื่องออกราวๆ 40-45 นาที ใครที่ต้องโหลดกระเป๋าควรเตรียมตัวมาให้ถึงสนามบินก่อนอย่างน้อย 1 ชั่วโมง เผื่อต้องเข้าแถวรอผู้โดยสารท่านอื่นเช็คอินยาว ซึ่งต้องไปโหลดกระเป๋าและผ่านจุด ตม.อีก (สำหรับคนเดินทางต่างประเทศ) บางสายการบินไม่อนุโลมให้แม้แต่ นาทีเดียว อาจจะทำให้ตกเครื่องได้
2.คุณสามารถเช็กอินออนไลน์ได้แล้ว
ปัจจุบันเกือบทุกสายการบินจะมีระบบเช็กอินออนไลน์ไว้เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยว คุณสามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ของสายการบิน แล้วเข้าระบบเช็คอินออนไลน์ไว้ก่อนได้เลย โดยส่วนใหญ่จะให้เช็คอินออนไลน์ได้ล่วงหน้า 24 ชั่วโมงก่อนเวลาเดินทาง พอเช็คอินแล้วก็พรินท์ใบเช็คอินออกมา หรือจะบันทึกข้อมูลไว้ในอีเมลแล้วโชว์ให้เจ้าหน้าที่สแกนบาร์โค้ดที่สนามบินก็ได้ วิธีนี้จะสะดวกสำหรับคนที่ไม่ต้องโหลดกระเป๋า เพราะมาถึงสนามบินก็เดินไปที่ห้องผู้โดยสารขาออกเพื่อสแกนกระเป๋าและบุคคลได้เลย
3.ต้องจัดกระเป๋ามาอย่างดี
การโหลดกระเป๋าใต้ท้องเครื่องบินและการนำสัมภาระขึ้นเครื่องบินนั้น ทางสายการบินมีการจำกัดน้ำหนัก และมีกฎห้ามนำของบางสิ่งบางอย่างขึ้นเครื่องบินด้วย ดังมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
ถ้าเป็นกระเป๋าที่จะโหลดใต้ท้องเครื่อง ต้องดูกฎระเบียบทางสายการบินให้ดี ว่าให้เอากระเป๋าโหลดใต้เครื่องได้ไม่เกินกี่ใบ ขนาดกระเป๋าไม่เกินเท่าไร และน้ำหนักรวมไม่เกินกี่กิโลกรัม ถ้าคำนวณแล้วว่าน้ำหนักต้องเกินที่กำหนดแน่นอน แนะนำให้ซื้อน้ำหนักเพิ่มเพราะการซื้อน้ำหนักเพิ่มออนไลน์จะถูกกว่ามาซื้อหน้าเคาน์เตอร์ ข้าวของในกระเป๋าก็ไม่ควรเป็นสิ่งของมีค่าและแตกหักง่าย หรือของท้องถิ่นที่กลิ่นแรงๆ ถ้าไม่จำเป็นอย่านำไป และที่สำคัญห้ามตอนนี้ทุกสายการบินออกกฎห้ามนำพาวเวอร์แบงค์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิดที่มีแบตสำรองโหลดใต้ท้องเครื่องบินแล้ว สามรถนำมาใส่กระเป๋าขึ้นเครื่องได้เลย
ส่วนกระเป๋าที่จะนำติดตัวขึ้นเครื่องบิน หลายสายการบินกำหนดให้ผู้เดินทางสามารถนำกระเป๋าเดินทางขึ้นเครื่องได้ 1 ใบ ส่วนใหญ่จะให้น้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัมและสามารถนำกระเป๋าติดตัวขึ้นเครื่องได้อีก 1 ใบ เช่น กระเป๋าสะพายผู้หญิง, กระเป๋าเป้ใบเล็ก ๆ โดยมีกฎว่าของที่นำขึ้นเครื่องนั้นต้องไม่มีวัตถุต้องห้ามและต้องไม่มีของเหลวขนาดขวดเกิน 100 มิลลิลิตร
4.ควรแต่งกายให้เรียบง่าย
แนะนำว่าควรแต่งตัวให้เรียบง่ายไว้ก่อน ไม่ต้องมีเครื่องประดับมากมายโดยเฉพาะเครื่องประดับที่เป็นโลหะ รองเท้าก็เลือกที่ถอดง่ายๆ สิ่งของพวกผ้าพันคอ หมวกสวยงาม เสื้อโค้ท เสื้อแขนยาว เก็บใส่กระเป๋าไว้ก่อนได้ เพราะ ตรงจุดสแกนกระเป๋าและบุคคลเจ้าหน้าที่จะให้เราเอาของทั้งหมดที่ติดตัวมาวางใส่ตะกร้าเพื่อผ่านเครื่องสแกน แล้วตัวเราเองก็จะต้องเดินผ่านเครื่องสแกนไปแบบตัวเปล่า บางสนามบินที่เคร่งครัดมากๆ ก็จะให้เราถอดรองเท้าออกด้วย
5.ควรต่อแถวสแกนกระเป๋าในแถวที่ไม่ค่อยมีผู้ชาย
เป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยสำหรับคนที่รีบจริงๆ ให้สังเกตว่าแถวไหนที่คนแต่งกายง่ายๆ ธรรมดาและมีผู้ชายน้อยที่สุด เพราะผู้ชายส่วนใหญ่จะต้องถอดเข็มขัดโลหะและถอดรองเท้าคัตชู รองเท้าผ้าใบออก ก็จะกินเวลาไปประมาณหนึ่ง ทั้งนี้ทั้งนั้นก็จะต้องดูองค์ประกอบอื่นด้วย
6.ในห้องผู้โดยสารขาออกมีปลั๊กไฟ
แทบจะทุกสนามบินเมื่อเราเดินผ่านจุดสแกนกระเป๋าและบุคคลไปแล้ว ก็จะมีที่นั่งให้ผู้โดยสารได้นั่งพักผ่อนรอขึ้นเครื่อง ซึ่งจะมีปลั๊กไฟไว้ให้ด้วย สำหรับใครที่ลืมชาร์จแบตโทรศัพท์และยังพอมีเวลาระหว่างรอขึ้นเครื่องบิน ก็สามารถเตรียมสายชาร์จมาชาร์จได้
7.ร้านอาหารราคาถูกมีทุกสนามบิน
ใครที่เคยทานข้าวที่สนามบิน จะทราบกันดีว่าราคาจะสูงกว่าปกติ อาจเสียค่าอาหารไปหลายร้อยบาทแต่ถ้าไม่อยากเสียเงินแพงๆ ขอบอกว่าแต่ละสนามบินจะมีฟู้ดคอร์ท ซึ่งราคาจะพอๆ กับร้านค้าทั่วไป อย่างสนามบินสุวรรณภูมิฟู้ดคอร์ทจะอยู่ที่ชั้น 1 ชั้นเดียวกับบริการแท็กซี่ของสนามบิน ชื่อ Magic Food Court ราคาเริ่มต้นประมาณ 40 บาท ส่วนที่สนามบินดอนเมืองจะมีอยู่ 2 แห่ง คือ ชั้น 1 ของอาคารสำนักงานท่าอากาศยานดอนเมือง ราคาเริ่มต้นประมาณ 35 บาท และชั้น 2 ของอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ (Terminal 2) ราคาเริ่มต้นประมาณ 50 บาท ถือเป็นอีกทางเลือกดีๆ ของนักเดินทางเลย
8.ตรวจเช็คเกตอยู่เรื่อยๆ
หลังจากที่เช็คอินแล้ว จะมีการแจ้งเกตที่ต้องไปรอขึ้นเครื่องบิน ซึ่งในบางกรณีอาจจะมีการเปลี่ยนเกตทีหลัง เพราะฉะนั้นต้องคอยเช็คจอแสดงเวลาบินของไฟล์ทที่เราจะเดินทางไว้และคอยฟังประกาศตลอด ดูว่าเกตยังเป็นหมายเลขเดิมไหม ถ้ามีการเปลี่ยนเกตจะได้ไม่ต้องวิ่งเหนื่อยหอบหรือตกเครื่อง แม้ว่าเราจะมาอยู่ที่เกตแล้วก็ตาม แต่ถ้ามีการเปลี่ยนเกตแล้วเราไม่ไปขึ้นเครื่องตามเวลาที่กำหนดก็ตกเครื่องได้เช่นกัน
9.อย่าลืมบัตรประชาชน/พาสปอร์ต และบอร์ดดิ้งพาส
ตั้งแต่เริ่มเช็คอินก็ต้องใช้บัตรประชาชนหรือพาสปอร์ตแล้ว อย่าลืมหยิบมาด้วยเพราะสำคัญมาก พอเช็คอินเรียบร้อยก็จะได้บอร์ดดิ้งพาส แล้วก็จะต้องใช้บัตรประชาชน/พาสปอร์ต กับบอร์ดดิ้งพาส แสดงก่อนผ่านจุดสแกนกระเป๋าและบุคคล พอเข้าไปที่เกตก่อนผ่านประตูออกไปขึ้นเครื่องก็ต้องแสดงต่อเจ้าหน้าที่อีกครั้งจนถึงหน้าประตูเครื่องบิน พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินก็จะขอดูอีก จนเราได้นั่งในที่นั่งของเราถึงค่อยเก็บเข้ากระเป๋า เฉะนั้นตั้งแต่มาเช็คอินก็ต้องเก็บบัตรประชาชน/พาสปอร์ตและบอร์ดดิ้งพาสไว้ในจุดที่หยิบง่าย จะได้สะดวกต่อการหยิบแสดงต่อเจ้าหน้าที่