• Facebook
• Twitter
• Line

สินค้าแทคติคอล ช็อป โดนใจผู้บริโภค

ทำไมลูกค้าจึงเลือกสินค้าจาก แทคติคอล ช็อป

แทคติคอล ช็อป ในปัจจุบันนี้ความต้องการของการของผู้บริโภคมีมากขึ้น โดยความต้องการซื้อสินค้าเป็นไปตามหลักอุปสงค์และอุปทานที่เกี่ยวโยงกับกิจกรรมและความชอบของบุคคล การจัดจำหน่ายสินค้าเฉพาะกลุ่มจึงเป็นอีกหนึ่งข้อสำคัญที่ทางร้านใส่ใจ โดยเริ่มที่ตัวผู้จัดจำหน่ายก่อน คือจำหน่ายสินค้าที่ตนเองสนใจและมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจนั้นอย่างถ่องแท้ จึงจะสามารถตอบโจทย์และเติบโตไปพร้อมกับกลุ่มลูกค้าได้เป็นอย่างดี โดยได้ศึกษาวิเคราะห์ถึงหลักเหตุและผลในการเลือกซื้อสินค้าและบริการของกลุ่มลูกค้าต่างๆ เพื่อนำมาปรับใช้ในธุรกิจของเรา ดังต่อไปนี้

1. การตระหนักถึงความต้องการโดยตรงของลูกค้า (Need / OpportunityRecognition)สิ่งแรกที่ลูกค้าใช้เป็นหลักในการเลือกซื้อสินค้าก็คือความต้องการสินค้า หากสินค้าชิ้นนั้นไม่ตอบสนองความต้องการลูกค้าก็จะไม่ซื้อ เราจึงใส่ใจและเน้นไปที่กลุ่มลุกค้าที่ชอบกิจกรรม outdoor การผจญภัยกลางแจ้ง เป็นต้นเพราะลูกค้ามีความคาดหวังกับสินค้านั้นๆของเรา เพราะฉะนั้นเราจึงสรรหาสินค้าที่ดีและมีคุณภาพมาจำหน่าย
2. การค้นหาข้อมูล (Information Search)เมื่อลูกค้าเกิดความต้องการซื้อสินค้า ลูกค้าจะทำการหาข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อ โดยอาจใช้ประสบการณ์ที่ผ่านมาของลูกค้าเองในการเลือกซื้อสินค้าชนิดนั้นๆ แต่หากลูกค้าต้องการเปลี่ยนมาใช้สินค้าที่มีคุณสมบัติที่มากกว่าเดิม ลูกค้าอาจต้องหาข้อมูลเพิ่มเติม จากบุคคล โฆษณา พนักงานขาย ข่าวประชาสัมพันธ์ หรือการทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ตัวอย่าง เพื่อประกอบการตัดสินใจ ฉะนั้นเราจึงสร้างเว็ปไซด์การสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ที่ลูกค้าสามารถใช้งานได้ง่ายและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าโดยตรงและมีข้อมูลประกอบที่เชื่อถือได้อีกด้วย
3. การประเมินทางเลือก (Evaluation of alternatives)ลูกค้าเปรียบเทียบสินค้าหลาย ๆ ตราสินค้าก่อนตัดสินใจ โดยพิจารณาตามเกณฑ์ต่าง ๆ อาทิ ตราสินค้า คุณสมบัติ หน้าที่ ราคา สัญลักษณ์ และอารมณ์ที่เกี่ยวเนื่องกับผลการปฏิบัติงานของตราสินค้านั้น ๆ ตราสินค้าใดที่ประเมินแล้วว่ามีคุณค่าตามความคาดหวังของลูกค้ามากที่สุด ก็จะเลือกตราสินค้านั้น เราจึงตั้งใจสร้างแบรนด์ของเราให้เป็นที่รู้จักด้วยมาตรฐานและคุรภาพที่ดีเยี่ยม
4. การซื้อ (Purchase)เมื่อผู้บริโภคตัดสินใจได้แล้วว่าจะซื้อสินค้าแบบใด ยี่ห้อใด ผู้ซื้อก็อาจเปลี่ยนใจในภายหลังได้อีก หากได้ข้อมูลเพิ่มเติมที่ทำให้เกิดการประเมินทางเลือกใหม่ เช่น สินค้ายี่ห้ออื่นมีการลดราคา และจัดโปรโมชั่นที่น่าสนใจ ทำให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่ากว่ายี่ห้อที่กำลังจะซื้อ ลูกค้าก็อาจตัดสินใจในวินาทีสุดท้าย ฉะนั้นเพื่อขจัดความลังเลใจเราจึงจัดสินค้าในราคาที่สมเหตุสมผลกับคุณภาพให้แก่ลุกค้าเสมอ
5. ผลลัพธ์ของการซื้อ (Outcomes of purchase) เมื่อลูกค้าได้ใช้สินค้าแล้วก็จะทำการประเมินผลลัพธ์ของการซื้อสินค้านั้น โดยเปรียบเทียบความคาดหวังที่มีต่อสินค้ากับประสบการณ์จริงเมื่อได้ใช้สินค้านั้น โดยผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นสามารถแบ่งได้เป็น 3 ระดับ คือ

• ประทับใจ – ลูกค้าจะเกิดความประทับใจต่อสินค้า เมื่อพบว่าสินค้านั้นดีกว่าที่คาดไว้ นั่นคือปณิธานของเราที่มุ่งหวังให้ลูกค้าประทับใจมากที่สุด
• พอใจ – ลูกค้าจะรู้สึกพอใจ เมื่อพบว่าสินค้านั้นดีอย่างที่คาดไว้
• ผิดหวัง – ลูกค้าจะรู้สึกผิดหวัง เมื่อพบว่าสินค้านั้นไม่ดีอย่างที่คาดไว้ ซึ่งนั่นคือเป็นปัญหาที่เราพยายามป้องกันเพื่อให้ลูกค้าทุกคนที่เข้ามาซื้อสินค้าเกิดความประทับใจมากที่สุด

  และเมื่อลูกค้าเกิดความต้องการสินค้าในครั้งต่อไปลูกค้าก็จะเริ่มพิจารณาปัจจัยในการเลือกซื้อตั้งแต่ข้อแรกใหม่อีกครั้ง