รู้จักเอาตัวรอดคือ การเที่ยวป่า ที่ดีที่สุด
ให้ sportlifeonline เป็นเพื่อนร่วมทางของคุณ
การเที่ยวป่า การท่องเที่ยวเดินป่า ใช้ชีวิตและเวลาส่วนใหญ่อยู่กับป่าแตกต่างกับใช้ชีวิตในเมืองเพราะในป่าไม่มีผู้คนและเครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ แต่สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นแรกเลยก็คือ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของตนเอง วิธีไหนที่เห็นว่าสะดวกในการดำเนินชีวิตในป่าให้ใช้วิธีนั้น แล้วธรรมชาติจะสอนเราเรียนรู้ไปกับป่าเอง แล้วหากคุณยังกังวลเรื่องของการเตรียมตัวละก็ให้คลิก www.sportlifeonline.com เพราะอุปกรณ์สำคัญๆ เช่น รองเท้าและกางเกงต่างๆรวมอยู่ที่นี่หมดแล้ว โดยครั้งนี้เรามีสาระน่ารู้ต่างๆในการใช้ชีวิตในป่ามาฝากทุกท่านกันเดินป่าอย่างไรให้เซฟตัวที่สุด
การเดินป่าวันแรกควรจะเดินช้าๆตามกำลังของร่างกาย ออมแรงไว้เพื่อให้ร่างกายปรับตัว ถ้าฝืนรีบเดินตามคนหน้า อาจช็อกหรือหมดแรงเมื่อออมแรงดีแล้ว วันต่อมาร่างกายเริ่มปรับตัวแล้วจะเริ่มเดินเร็วขึ้นเรื่อยๆทำแบบนี้ ถึงแม้ว่าวันสุดท้ายหรือช่วงเย็นที่คนอื่นหมดแรง แต่เรายังมีแรงอยู่เหลือเฟือ วิธีเดินป่าไม่ให้ลื่นล้ม คือ หาที่จับก่อนแล้วค่อยก้าว ถ้าเดินในป่า ให้จับต้นไม้ แล้วทดลองเหยียบให้แน่ใจว่า ดินข้างหน้าไม่เป็นหลุมควรจะเกาะต้นไม้ทั้ง 2 มือ เผื่อว่าไปจับโดนไม้ผุทำให้เสียหลัก ถ้าลงทางชันไม่มีต้นไม้ให้เกาะ ให้นั่งยองๆ แล้วใช้มือยันกับก้อนหินหรือดินที่พื้น แล้วค่อยยื่นขาออกไปทีละข้างถ้าเดินในลำห้วยอาจจะจับก้อนหินลองแหย่ขาออกไปเหยียบหินก้อนต่อไป แล้วขยับเท้าให้แน่ใจก่อนว่าจะไม่ลื่นหรือหินพลิกจึงค่อยก้าวออกไป ถ้าน้ำลึกมาก ก้มลงไปจับก้อนหินไม่ได้ให้ใช้ไม้เท้า 2 อันช่วยค้ำ ถ้าไม่มีไม้เท้าพยายามก้าวสั้นๆ จะทรงตัวขึ้น วิธีเดินขึ้นเขาไม่ให้เหนื่อยคือ ดูลมหายใจดูว่ากำลังหายใจเข้า หรือ หายใจออก ลมหายใจยาวหรือสั้น ลมหายใจแรงหรือเบาดูอยู่อย่างนี้ก็จะลืมความเหนื่อย แต่ถ้าเผลอใจลอยไปคิดเรื่องอื่นอาจจะเหนื่อยอีก ถ้าเริ่มเหนื่อย พยายามเดินช้าลง ก้าวสั้นๆ ถ้าคนหน้าเดินเร็ว เราจะพยายามเร่งสปีดเพราะกลัวเดินตามคนหน้าไม่ทัน ช่วงเวลาที่พยายามเดินให้เร็วขึ้นนี้เองจะทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน เรียกว่า มัวแต่ดูคนอื่นจนลืมดูตัวเอง หรือถ้ามัวแต่คิดว่าเหนื่อยก็จะยิ่งเหนื่อย แต่ถ้าเปลี่ยนมาดูลมหายใจ เราจะพยายามควบคุมการเดินไม่ให้ลมหายใจเปลี่ยนแปลงเร็วเกินไป ถ้าไปกันหลายคนแล้วมีคนที่เหนื่อยจนเดินไม่ไหว เปลี่ยนให้คนนั้นมาเดินนำหน้า เขาจะหายเหนื่อยเพราะการเดินตามก้นคนอื่นจะมีแรงกดดันแต่การเดินนำหน้าจะเดินตามกำลังของตัวเองการเดินลงเขาที่ปลอดภัย
สาเหตุที่ทำให้การเดินลงเขาแล้วปวดกล้ามเนื้อขาทั้งสองข้างเกิดจากลงเขาผิดวิธี คือ ลงเขาเร็วเกินไปและใช้กล้ามเนื้อขาเบรคมากเกินไปวิธีป้องกันคือ เวลาลงเขาพยายามลงช้าๆ หาต้นไม้เกาะหาไม้เท้ายัน เพื่อใช้กล้ามเนื้อขาให้น้อยที่สุดบางคนเข้าใจผิดไปกินยาคลายเนื้อ แล้วไม่ดีขึ้น เพราะสาเหตุที่แท้จริงไม่ได้เกิดจากกล้ามเนื้อหดตัว แต่เกิดจากกล้ามเนื้อบอบช้ำ ทางรักษาที่ดีที่สุดคือ หยุดพัก รอให้ผ่านไปสัก 2-3 วันจึงเริ่มดีขึ้น ถ้าสัก 1 สัปดาห์ก็จะหายสนิทเดินป่าระวังพืชมีพิษ
พืชมีพิษในป่า คือพืชที่สัมผัสแล้วรู้สึกคัน จะมีขนหรือมีน้ำยาง ถ้าเผลอไปโดนเข้าให้ทายาแก้แพ้ พืชมีพิษที่พบในเมืองไทย มีดังนี้ • พวกใบมีขนเป็นพิษ คือ ตำแย หานไก่ กะลังตังช้าง สามแก้ว หานช้างร้อง หานกวาง • พวกผลมีขนเป็นพิษ คือ หมามุ่ย ช้างแหก • พวกที่มีน้ำยางเป็นพิษ คือ ตาตุ่มทะเล ตังตาบอด ตังกวม รักหลวง แกนมอ พืชที่มีขน มองด้วยตาเปล่า จะไม่เห็นขนของมัน ดังนั้น วิธีป้องกันพืชมีพิษเวลาเดินป่าคือ สวมเสื้อผ้าปิดมิดชิดตั้งแต่หัวจรดเท้า รวมทั้งสวมถุงมือด้วย และ พยายามอย่าไปสัมผัสกับใบไม้ และ ยางไม้ข้อแนะนำเรื่องการขับถ่าย
ก่อนออกเดินทางตอนเช้าเรามักจะไม่ปวดอุจจาระ ถ้าไปปวดท้องต้องถ่ายกลางทาง จะต้องทนนั่งให้แมลงกัดและใบไม้แยงก้น ยิ่งถ้าไม่ได้ถ่ายหลายๆวัน อาจสร้างปัญหาให้กับร่างกายได้ วิธีบังคับให้ถ่ายตอนเช้าคือ ก่อนนอนให้กินอาหารที่ช่วยระบาย เช่น มะขาม แต่ระวังอย่ากินตอนเช้า มิฉะนั้นอาจจะไปถ่ายกลางทาง แต่ถ้ายังไม่ปวดท้องตอนเช้า ให้นั่งหรือนอนตะแคงเพื่อทำสมาธิ หรือนั่งคิดถึงเรื่องที่ทำให้รู้สึกมีความสุข สักพักจนรู้สึกสบาย พอหายตื่นเต้นแล้วเดี๋ยวจะปวดท้องเอง การกินมะขาม ควรใช้เฉพาะเวลาจำเป็นเท่านั้นอย่าใช้เป็นประจำ เพราะมะขามเมื่อใช้ครั้งแรก จะไปกระตุ้นให้ลำไส้เคลื่อนไหวแต่หลังจากลำไส้เคยชินกับการกระตุ้นแล้ว ครั้งต่อไปจะใช้ไม่ได้ผลต้องกินในปริมาณสูงขึ้นเรื่อยๆ ปัญหาท้องผูกจริงๆแล้วเกิดจากร่างกายขาดแร่ธาตุ โดยเฉพาะแมกนีเซียม ทำให้ลำไส้ไม่ค่อยขยับตัว การกินผักผลไม้สม่ำเสมอจะช่วยให้ร่างกายได้รับแมกนีเซียม ช่วยให้อาการท้องผูกหายไป ร่างกายสะสมแมกนีเซียมได้ถึงแม้ว่าเวลาอยู่ในป่าจะไม่ค่อยได้รับแมกนีเซียมเพียงพอร่างกายก็สามารถนำแมกนีเซียมที่สะสมไว้มาใช้ได้ การขุดหลุม สามารถใช้กิ่งไม้ที่ตายแล้วแต่ยังคงติดอยู่คาต้นเพราะกิ่งไม้สดจะอ่อนและกิ่งไม้แห้งจะเปราะ หาขนาดพอดีสองมือจับ เหลาปลายให้แหลมค่อยๆขูดดินไปทีละน้อย ถ้าจะทำให้ปลายแข็งให้นำไปอิงไฟ หรือนำไม้ไผ่สดมาผ่าครึ่งซึกด้านล้าง ส่วนด้านบนเหลือเป็นท่อนกลมๆไว้สำหรับมือจับ ก็จะช่วยให้สะดวกมากยิ่งขึ้นใส่ใจในทุกช่วงการเดินป่า ด้วยการรู้จักสังเกตและระวังตนเอง
Categories:
บทความท่องเที่ยว, บทความน่ารู้, รวมบทความ
ใส่ใจในทุกช่วงการเดินป่า ด้วยการรู้จักสังเกตและระวังตนเอง
ใส่ใจในทุกช่วงการเดินป่า ด้วยการรู้จักสังเกตและระวังตนเอง เวลาเดินป่าอย่าประมาท การเดินดูแต่เส้นทางอย่างเดียวโดยไม่ดูป่ารอบข้างเลยนั้นไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องนักเพราะเส้นทางในป่านั้นมีอันตรายมาก บางทีเราอาจเจอกับสัตว์ป่าหรือสิ่งต่างๆที่ไม่อาจคาดการณ์ได้เพราะฉะนั้นจึงเราควรสังเกตดูซ้ายดูขวาให้ชำนาญจนเป็นไปเองโดยอัตโนมัติสำหรับสิ่งที่ต้องระวังและสังเกตเวลาเดินป่าคือ • ที่พื้นอาจมีงู หรือต่อหลุม สังเกตว่าดินจะโล่งเป็นขุยะนูนขึ้นเล็กน้อยคล้ายจอมปลวก ไม่มีต้นไม้ขึ้นมีรูเล็กๆที่ตัวต่อบินเข้าออก มีตัวต่อบินอยู่ 2-3 ตัว ตัวต่อจะตัวใหญ่และมีปล้องสีส้ม 1 ปล้องคาดที่หางแสดงว่าข้างใต้นั้นเป็นรังต่อหลุม ถ้าเหยียบลงไปจะโดนรุมต่อยได้ • โคลนดูดหรือทรายดูด พบมากตามชายหาดริมน้ำแม้แต่เดินลุยน้ำหรือบนบกก็เจอได้ ลองใช้ไม้จิ้มดู ถ้าอยู่บนบกสังเกตว่าพื้นจะอ่อนนุ่มแต่มองด้วยตาเปล่าอาจไม่เห็น แต่ถ้าเหยียบลงไปสัก 1-2 วินาทีก็จะจมลงไปแล้วยกขาไม่ขึ้น หลุมส่วนใหญ่จะตื้นแค่ครึ่งตัวคนแต่เคยมีคนถูกดึงจมลงไปทั้งตัวควรหลีกเลี่ยงการเดินบนโคลนและบนทราย ถ้าจำเป็นต้องเดินก็ต้องระวังเวลาเดินควรจับต้นไม้ไว้ก่อนจึงค่อยก้าวต่อไปถ้าไม่มีต้นไม้ ค่อยๆก้าวให้มั่นคงทีละก้าว โดยใช้ขาหน้าแหย่ดูก่อน ถ้าโดนดูดจะยกขาไม่ขึ้น อย่าดิ้น เพราะจะโดนดูดลึกลงไปให้พยายามนอนราบไปหาฝั่งที่พื้นแข็ง เพื่อยกเท้าขึ้นมาแล้วคลานออกมา • ถัดขึ้นมาจากพื้นอาจมีแร้วดักสัตว์หรือปืนผูก พวกนี้จะมีสัญลักษณ์ให้เราสังเกตได้ อาจเป็นกระสอบผูกไว้ในระดับสายตาหรือเป็นกิ่งไม้ขวางไว้ ซึ่งคนด้วยกันดูรู้ว่าเกิดจากคนทำ แต่สัตว์อาจไม่รู้ถ้ามองขึ้นไปบนต้นไม้แถวนั้นอาจจะเห็นห้างที่คนสร้างไว้ พอเราเห็นสิ่งที่คนสร้างเหล่านี้แล้วควรจะสอดส่ายสายตาดูให้ดี • กิ่งไม้เหนือหัวขึ้นไปอาจมีงู ซึ่งสามารถเลื้อยไปตามเถาวัลย์ได้เร็วจนตาเรามองไม่ทันและยังมีรังต่อ ถ้าไปกระเทือนโดนรังมันอาจจะโดนไล่ต่อยถ้าหนีไม่ทันอาจโดนต่อยได้ • ถ้าเดินในทุ่งหญ้าพยายามเกาะกลุ่มกันไว้เพราะอาจมีเสือหรือหมาในอยู่บนที่สูงคอยเล็งหาเหยื่อสาระน่ารู้เพิ่มเติม
• เทคนิคสำคัญที่สุดของการเดินป่า คือการ รักษาระดับการหายใจให้สม่ำเสมอ ก้าวเท้าแบบสมาธิ ให้ประสานกับการหายใจ รักษาความเร็วในการเดินสม่ำเสมอ ไม่ต้องเร่งเดิน ควรหายใจทั้งทางจมูกและปาก การก้าวเดินเมื่อขึ้นเขา หรือลงเขาให้ก้าวสั้นกว่าปกติ อย่าให้ต้องก้าวขึ้นหรือลงสูงเกินไป หาจุดวางเท้าให้ระยะความสูงของก้าวเท้าต่ำๆ เมื่อลงเขาหรือขึ้นเขาให้วางเท้าแบบเฉียงๆถ้าชันมากให้วางเท้าขวาง 90 องศาเลยจะทำให้โอกาสลื่นล้มน้อยลงเมื่อเดินเลาะริมผาหรือริมเขาให้กางมือแตะผนังไว้ ตัวเราก็จะเอนเข้าหาด้านนั้นโดยธรรมชาติ • ระหว่างออกทริป ไม่ว่าจะเดินในน้ำเดินขึ้นเขาหรือเดินลงเขาถ้าจะให้ไม่เหนื่อยมาก ลดโอกาสการเป็นตะคริวไม่กลัวทางสูงชัน ไม่กลัวทางลื่น ไม่กลัวทางเละ ไม่ปวดน่องปวดหน้าขามากไม่เจ็บปลายนิ้วเท้าเวลาลงเขาและรองเท้าก็ไม่จำเป็นต้องหารองเท้าที่มีดอกลึกขอแนะนำว่า ให้ใช้ไม้เท้าในการเดินป่าทุกครั้ง ไม้เท้าดีมีประโยชน์สูงสุด ควรมีความยาวเท่าความสูงของตัวเรา + 20 เซนติเมตร หรืออย่างน้อยก็ยาวเท่าความสูงของตัวเราเมื่อใช้ไม้เท้าเป็นแล้วเส้นทางเดินที่ยากก็จะง่ายลงมากหากใช้ไม้เท้าเป็น ถือไม้เท้าเป็นแล้ว เส้นทางที่ว่ายากก็จะง่ายลง มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เหนื่อยน้อยลง เมื่อยน้อยลงเดินได้เร็วขึ้น ไม่ว่าจะเดินในน้ำเดินขึ้นเขาเดินลงเขา หรือแม้แต่พื้นราบการเดินป่าในผู้สูงอายุ
สำหรับท่านที่มีอายุมากอยู่ในช่วง 40 - 50 - 60 ปี หากท่านมั่นใจตัวเองว่าแข็งแรงและได้เตรียมมาพอเพียงที่จะสามารถเดินป่าได้แต่ในครั้งแรกนั้นอาจจะลองเลือกทริปในระดับง่ายถึงปานกลางหากเกิดความชำนาญในการเดินป่าบ้างแล้วแล้วค่อยเลือกทริปที่ท่านอยากไปในอีกระดับหนึ่ง ซึ่งประโยชน์ทางตรงอีกอย่างคือการเดินป่าถือ เป็นการออกกำลังกายที่มีระยะเวลายาวที่จะทำให้ร่างกายแข็งแรงอีกด้วยแนะนำเทคนิคการเดินป่าเพิ่มเติม
การเดินป่าเป็นกิจกรรมที่ต้องใช้ความอุตสาหะกำลังใจความมุ่งมั่นท่านจะต้องเตรียมพร้อมทางจิตใจและร่างกายที่ต้องพร้อมอยู่เสมอ มีอดทนต่อความยากลำบากและความเหน็ดเหนื่อย ดังนั้นควรออกกำลังกายประจำ เช่น วิ่ง ออกกำลังฟิตเนส หรือการบริหารร่างกาย การฝึกโยคะ เพื่อให้หัวใจ กล้ามเนื้อ ร่างกายทุกส่วนได้คุ้นเคยก่อนที่จะใช้งานในการเดินป่า อีกทั้งต้องเป็นผู้ที่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ในระดับหนึ่งและควรช่วยเหลือบุคคลอื่นได้เป็นผู้มีจิตใจเสียสละ ยินดีร่วมทุกข์ร่วมสุขกับหมู่คณะมีความรักในธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีจิตใจพร้อมเปิดรับประสบการณ์ใหม่เสมอเดินป่าทุกครั้งต้องใส่ใจ ความปลอดภัยคือสิ่งสำคัญ ให้ sportlifeonline เป็นผู้ช่วยใน การเดินป่า ของคุณ ด้วยรองเท้าเดินป่าคุณภาพเยี่ยม
Categories:
บทความท่องเที่ยว, บทความน่ารู้, รวมบทความ
เดินป่าทุกครั้งต้องใส่ใจ ความปลอดภัยคือสิ่งสำคัญ ให้ sportlifeonline เป็นผู้ช่วยใน การเดินป่า ของคุณ ด้วยรองเท้าเดินป่า คุณภาพเยี่ยม
สิ่งที่ได้จากการไปเดินป่านอกจากจะมีความสุขกับการได้ผจญภัยแล้ว เรายังคงต้องคำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของเราเป็นหลักด้วย ซึ่ง การเดินป่า เป็นการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่มีเสน่ห์ ทำให้เราได้สัมผัสกับสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติรอบตัว แต่ต้องคำนึงว่าการท่องเที่ยวแบบนี้ไม่ได้สะดวกสบายเหมือนเที่ยวแบบอื่นๆ เพราะเราต้องใช้กำลังขาทั้งสองสองข้างเดินไปยังจุดหมายปลายทาง ซึ่งทาง sportlifeonline มีสาระดีๆที่เป็นประโยชน์มาฝากทุกท่านดังต่อไปนี้เทคนิคในการเดินป่า พิชิตเป้าหมายด้วยการจัดการที่ดี
1. วางแผนและศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ที่เราจะเดินทาง เช่น สภาพภูมิประเทศ สภาพภูมิอากาศ และเตรียมตัวไปให้พร้อมทั้งร่างกายและสัมภาระ ที่สำคัญการไปเดินป่าคือการทำตัวให้กลมกลืนกับธรรมชาติ ไม่ควรไปทำลายป่าหรือทรัพยากรธรรมชาติ 2. การเดินป่าที่มีลักษณะภูมิประเทศเป็นสันเขา เป็นเส้นทางที่ง่ายและเหนื่อยน้อยที่สุดในบรรดาเส้นทางอื่น ๆ เพราะสันเขาจะไม่ค่อยมีต้นไม้หรืออุปสรรคกีดขวางมากนัก บรรดาสัตว์ต่าง ๆ มักใช้เส้นทางสันเขาในการเดินทางทำให้เราเดินตามได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังสามารถมองดูภูมิประเทศด้านล่างได้อีกด้วย การเดินบนสันเขามีปัญหาเดียวคือเมื่อเป็นเส้นทางที่สะดวกก็มักจะมีผู้ใช้บ่อยทั้งสัตว์และคนทำให้เกิดเส้นทางขึ้นหลายเส้นทางทำให้เราสับสนและหลงทางได้ ดังนั้นควรมีการตรวจสอบความถูกต้องด้วยเข็มทิศอย่างสม่ำเสมอ 3. การเดินป่าที่มีลักษณะภูมิประเทศเป็นลำห้วย เป็นเส้นทางการเดินที่ยากพอสมควร เพราะความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งน้ำจะทำให้มีพันธุ์พืชต่างๆ ขึ้นรกเต็มไปหมด มีดินโคลนและตะไคร่น้ำเกาะอยู่ตามโขดหินทำให้ลื่นได้ง่าย นอกจากนั้นยังจะมีบรรดาสัตว์ต่างๆ ที่ชอบอาศัยอยู่ที่มีความชื้นเช่นนี้ เช่น ทาก ปลิง งูบางชนิด เป็นต้น เพราะฉะนั้นต้องคอยระแวดระวัง เตรียมเสื้อผ้าและรองเท้าที่ป้องกันการโจมตีของสัตว์เหล่านี้ได้ ถึงแม้ว่าลำห้วยจะเป็นทางที่ลำบากและทำให้เดินทางได้ช้า แต่ก็มีข้อดีคือนำน้ำขึ้นมาทั้งดื่มทั้งใช้ได้ และความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งน้ำจะเป็นแหล่งอาหาร เช่น ปลาในน้ำ ผลไม้จากพืชพันธุ์ไม้ต่างๆ เป็นต้น 4. การเดินป่าที่มีลักษณะภูมิประเทศเป็นป่าทึบ เป็นการเดินป่าที่ยากที่สุดและต้องอาศัยประสาทสัมผัสทุกส่วนในร่างกายที่ฉับไว ป่าทึบนั้นจะเป็นที่อยู่ของสัตว์ป่านานาชนิดและสัตว์ป่าจะมีประสาทสัมผัสที่ว่องไวกว่าคนหลายเท่าตัว เมื่อได้ยินเสียงอาจเกิดความตกใจหนีเตลิดไปหรือไม่ก็เข้าจู่โจมเราได้ ดังนั้นต้องใช้เสียงให้น้อยที่สุด ที่สำคัญหากไม่เคยไปหรือไม่ชำนาญเส้นทางควรมีผู้นำทางจะปลอดภัยที่สุด การเดินป่าทึบจะมีต้นไม้รกคอยกีดขวางเส้นทางเดินอยู่เสมอ หากจำเป็นจริงก็สามารถใช้มีดออกมาตัดกิ่งไม้เหล่านั้นเพื่อให้เดินผ่านไปได้วิธีตัดคือฟันเฉียงลงหรือขึ้นให้เร็วที่สุดเพราะจะเกิดเสียงน้อยกว่าฟันช้าๆ นอกจากเทคนิควิธีการเบื้องต้นแล้ว การเดินป่าทุกที่ต้องพยายามเดินให้ออกกำลัง มีความช่างสังเกต ไม่ทำเสียงดังสาระน่ารู้เรื่องการผูกเชือกรองเท้า
ที่ผูกเชือกรองเท้าจะมีรูสำหรับร้อยเชือกรองเท้า ซึ่งรูที่ใช้สำหรับร้อยเชือกรองเท้าจะมีหลายแบบ ขึ้นอยู่กับผู้ผลิตรองเท้า ซึ่งรูปแบบที่นิยมใช้กันในปัจจุบันจะสามารถแบ่งออกได้แป็น 5 ประเภท คือ
1. Eyelets แบบนี้จะเป็นที่นิยมใช้กันมากที่สุด ซึ่งจะมีลักษณะเป็นรูกลม ๆ สำหรับร้อยเชือก รูร้อยเชือกรองเท้าแบบนี้จะมีข้อเสียที่ความแข็งแรง ซึ่งอาจจะมีการฉีกขาดได้ง่ายถ้าได้รับแรงดึงจากเชือกรองเท้ามาก เพราะรูนี้จะรับแรงดึงจากเชือกรองเท้ามาก 2. D-rings จะเป็นการใช้ห่วงเหล็กรูปตัว D แทนรูกลม ๆ ธรรมดา ซึ่งเราจะร้อยเชือกรองเท้าผ่านตัว D รูร้อยเชือกรองเท้าแบบนี้จะมีความแข็งแรงกว่าแบบ Eyelets เพราะทำด้วยโลหะสามารถรับแรงได้ดีกว่า แต่ก็จะทำให้รองเท้าหนักขึ้น จากน้ำหนักโลหะที่เพิ่มขึ้นมา 3. Pulleys or Bearings เป็นการใช้เหล็กสำหรับเกี่ยวเชือกรองเท้า แทนที่จะใช้การร้อยผ่านห่วงหรือรู ซึ่งข้อดีคือสามารถร้อยเชือกรองเท้าได้ง่าย เพราะทำการเกี่ยวเอาก็พอ ไม่ต้องเสียเวลาในการร้อยเข้าไปทีละรู แต่การใช้รูร้อยเชือกรองเท้าแบบนี้ก็อาจจะทำให้เชือกรองเท้าหลุดง่าย เพราะเชือกเพียงแค่เกี่ยวเอาไว้เท่านั้น 4. Webbing เป็นการใช้ผ้าทำเป็นห่วงสำหรับร้อยเชือกรองเท้า ซึ่งเหมาะสำหรับรองเท้าที่ไม่ได้ใช้งานหนักมากนัก รองเท้าที่มีรูร้อยเชือกแบบนี้มักจะมีน้ำหนักเบาและไม่หุ้มขึ้นมาสูงมาก ส่วนมากจะอยู่ประมาณข้อเท้าหรือต่ำกว่าเล็กน้อย รอบบริเวณห่วงที่ผูกเชือกรองเท้าจะมีลักษณะเรียว ให้ความรู้สึกสบายบริเวณรอบข้อเท้า นิ้วเท้าและหลังเท้า รองเท้าประเภทนี้ส่วนใหญ่จะมีห่วงร้อยเชือกด้านหน้าด้วย การใช้ผ้าทำเป็นห่วงร้อยเชือกแบบนี้ช่วยทำให้เท้าไม่ถูกกดทับจากห่วงเหล็ก และให้ความรู้สึกสบายเท้ามากกว่า 5. Combination เป็นการใช้รูร้อยเชือกแบบผสม คือมีมากกว่า 1 แบบในรองเท้าคู่เดียวกัน อันเนื่องมาจากจุดแต่ละจุดบนรองเท้าที่เราทำการร้อยเชือก จะรับแรงไม่เท่ากัน ผู้ผลิตรองเท้าบางยี่ห้อ ก็มีการคำนวณถึงแรงในแต่ละจุดและทำการเลือกเชือก รูร้อยเชือกให้เหมาะสมกับแรงที่เกิดขึ้นในจุดนั้นๆ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดเรื่องน่ารู้ก่อนการเดินทางโดยสายการบิน
1.ทุกสายการบินจะกำหนดปิดให้บริการเช็คอินที่เคาน์เตอร์ 45 นาที ก่อนเครื่องออก
ท่านที่เดินทางบ่อยๆ มักจะทราบกันดีว่าสายการบินส่วนใหญ่นั้นจะปิดให้เช็กอินที่เคาน์เตอร์ก่อนเวลาเครื่องออกราวๆ 40-45 นาที ใครที่ต้องโหลดกระเป๋าควรเตรียมตัวมาให้ถึงสนามบินก่อนอย่างน้อย 1 ชั่วโมง เผื่อต้องเข้าแถวรอผู้โดยสารท่านอื่นเช็คอินยาว ซึ่งต้องไปโหลดกระเป๋าและผ่านจุด ตม.อีก (สำหรับคนเดินทางต่างประเทศ) บางสายการบินไม่อนุโลมให้แม้แต่ นาทีเดียว อาจจะทำให้ตกเครื่องได้2.คุณสามารถเช็กอินออนไลน์ได้แล้ว
ปัจจุบันเกือบทุกสายการบินจะมีระบบเช็กอินออนไลน์ไว้เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยว คุณสามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ของสายการบิน แล้วเข้าระบบเช็คอินออนไลน์ไว้ก่อนได้เลย โดยส่วนใหญ่จะให้เช็คอินออนไลน์ได้ล่วงหน้า 24 ชั่วโมงก่อนเวลาเดินทาง พอเช็คอินแล้วก็พรินท์ใบเช็คอินออกมา หรือจะบันทึกข้อมูลไว้ในอีเมลแล้วโชว์ให้เจ้าหน้าที่สแกนบาร์โค้ดที่สนามบินก็ได้ วิธีนี้จะสะดวกสำหรับคนที่ไม่ต้องโหลดกระเป๋า เพราะมาถึงสนามบินก็เดินไปที่ห้องผู้โดยสารขาออกเพื่อสแกนกระเป๋าและบุคคลได้เลย3.ต้องจัดกระเป๋ามาอย่างดี
การโหลดกระเป๋าใต้ท้องเครื่องบินและการนำสัมภาระขึ้นเครื่องบินนั้น ทางสายการบินมีการจำกัดน้ำหนัก และมีกฎห้ามนำของบางสิ่งบางอย่างขึ้นเครื่องบินด้วย ดังมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ ถ้าเป็นกระเป๋าที่จะโหลดใต้ท้องเครื่อง ต้องดูกฎระเบียบทางสายการบินให้ดี ว่าให้เอากระเป๋าโหลดใต้เครื่องได้ไม่เกินกี่ใบ ขนาดกระเป๋าไม่เกินเท่าไร และน้ำหนักรวมไม่เกินกี่กิโลกรัม ถ้าคำนวณแล้วว่าน้ำหนักต้องเกินที่กำหนดแน่นอน แนะนำให้ซื้อน้ำหนักเพิ่มเพราะการซื้อน้ำหนักเพิ่มออนไลน์จะถูกกว่ามาซื้อหน้าเคาน์เตอร์ ข้าวของในกระเป๋าก็ไม่ควรเป็นสิ่งของมีค่าและแตกหักง่าย หรือของท้องถิ่นที่กลิ่นแรงๆ ถ้าไม่จำเป็นอย่านำไป และที่สำคัญห้ามตอนนี้ทุกสายการบินออกกฎห้ามนำพาวเวอร์แบงค์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิดที่มีแบตสำรองโหลดใต้ท้องเครื่องบินแล้ว สามรถนำมาใส่กระเป๋าขึ้นเครื่องได้เลย ส่วนกระเป๋าที่จะนำติดตัวขึ้นเครื่องบิน หลายสายการบินกำหนดให้ผู้เดินทางสามารถนำกระเป๋าเดินทางขึ้นเครื่องได้ 1 ใบ ส่วนใหญ่จะให้น้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัมและสามารถนำกระเป๋าติดตัวขึ้นเครื่องได้อีก 1 ใบ เช่น กระเป๋าสะพายผู้หญิง, กระเป๋าเป้ใบเล็ก ๆ โดยมีกฎว่าของที่นำขึ้นเครื่องนั้นต้องไม่มีวัตถุต้องห้ามและต้องไม่มีของเหลวขนาดขวดเกิน 100 มิลลิลิตร4.ควรแต่งกายให้เรียบง่าย
แนะนำว่าควรแต่งตัวให้เรียบง่ายไว้ก่อน ไม่ต้องมีเครื่องประดับมากมายโดยเฉพาะเครื่องประดับที่เป็นโลหะ รองเท้าก็เลือกที่ถอดง่ายๆ สิ่งของพวกผ้าพันคอ หมวกสวยงาม เสื้อโค้ท เสื้อแขนยาว เก็บใส่กระเป๋าไว้ก่อนได้ เพราะ ตรงจุดสแกนกระเป๋าและบุคคลเจ้าหน้าที่จะให้เราเอาของทั้งหมดที่ติดตัวมาวางใส่ตะกร้าเพื่อผ่านเครื่องสแกน แล้วตัวเราเองก็จะต้องเดินผ่านเครื่องสแกนไปแบบตัวเปล่า บางสนามบินที่เคร่งครัดมากๆ ก็จะให้เราถอดรองเท้าออกด้วย5.ควรต่อแถวสแกนกระเป๋าในแถวที่ไม่ค่อยมีผู้ชาย
เป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยสำหรับคนที่รีบจริงๆ ให้สังเกตว่าแถวไหนที่คนแต่งกายง่ายๆ ธรรมดาและมีผู้ชายน้อยที่สุด เพราะผู้ชายส่วนใหญ่จะต้องถอดเข็มขัดโลหะและถอดรองเท้าคัตชู รองเท้าผ้าใบออก ก็จะกินเวลาไปประมาณหนึ่ง ทั้งนี้ทั้งนั้นก็จะต้องดูองค์ประกอบอื่นด้วย6.ในห้องผู้โดยสารขาออกมีปลั๊กไฟ
แทบจะทุกสนามบินเมื่อเราเดินผ่านจุดสแกนกระเป๋าและบุคคลไปแล้ว ก็จะมีที่นั่งให้ผู้โดยสารได้นั่งพักผ่อนรอขึ้นเครื่อง ซึ่งจะมีปลั๊กไฟไว้ให้ด้วย สำหรับใครที่ลืมชาร์จแบตโทรศัพท์และยังพอมีเวลาระหว่างรอขึ้นเครื่องบิน ก็สามารถเตรียมสายชาร์จมาชาร์จได้7.ร้านอาหารราคาถูกมีทุกสนามบิน
ใครที่เคยทานข้าวที่สนามบิน จะทราบกันดีว่าราคาจะสูงกว่าปกติ อาจเสียค่าอาหารไปหลายร้อยบาทแต่ถ้าไม่อยากเสียเงินแพงๆ ขอบอกว่าแต่ละสนามบินจะมีฟู้ดคอร์ท ซึ่งราคาจะพอๆ กับร้านค้าทั่วไป อย่างสนามบินสุวรรณภูมิฟู้ดคอร์ทจะอยู่ที่ชั้น 1 ชั้นเดียวกับบริการแท็กซี่ของสนามบิน ชื่อ Magic Food Court ราคาเริ่มต้นประมาณ 40 บาท ส่วนที่สนามบินดอนเมืองจะมีอยู่ 2 แห่ง คือ ชั้น 1 ของอาคารสำนักงานท่าอากาศยานดอนเมือง ราคาเริ่มต้นประมาณ 35 บาท และชั้น 2 ของอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ (Terminal 2) ราคาเริ่มต้นประมาณ 50 บาท ถือเป็นอีกทางเลือกดีๆ ของนักเดินทางเลย8.ตรวจเช็คเกตอยู่เรื่อยๆ
หลังจากที่เช็คอินแล้ว จะมีการแจ้งเกตที่ต้องไปรอขึ้นเครื่องบิน ซึ่งในบางกรณีอาจจะมีการเปลี่ยนเกตทีหลัง เพราะฉะนั้นต้องคอยเช็คจอแสดงเวลาบินของไฟล์ทที่เราจะเดินทางไว้และคอยฟังประกาศตลอด ดูว่าเกตยังเป็นหมายเลขเดิมไหม ถ้ามีการเปลี่ยนเกตจะได้ไม่ต้องวิ่งเหนื่อยหอบหรือตกเครื่อง แม้ว่าเราจะมาอยู่ที่เกตแล้วก็ตาม แต่ถ้ามีการเปลี่ยนเกตแล้วเราไม่ไปขึ้นเครื่องตามเวลาที่กำหนดก็ตกเครื่องได้เช่นกัน9.อย่าลืมบัตรประชาชน/พาสปอร์ต และบอร์ดดิ้งพาส
ตั้งแต่เริ่มเช็คอินก็ต้องใช้บัตรประชาชนหรือพาสปอร์ตแล้ว อย่าลืมหยิบมาด้วยเพราะสำคัญมาก พอเช็คอินเรียบร้อยก็จะได้บอร์ดดิ้งพาส แล้วก็จะต้องใช้บัตรประชาชน/พาสปอร์ต กับบอร์ดดิ้งพาส แสดงก่อนผ่านจุดสแกนกระเป๋าและบุคคล พอเข้าไปที่เกตก่อนผ่านประตูออกไปขึ้นเครื่องก็ต้องแสดงต่อเจ้าหน้าที่อีกครั้งจนถึงหน้าประตูเครื่องบิน พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินก็จะขอดูอีก จนเราได้นั่งในที่นั่งของเราถึงค่อยเก็บเข้ากระเป๋า เฉะนั้นตั้งแต่มาเช็คอินก็ต้องเก็บบัตรประชาชน/พาสปอร์ตและบอร์ดดิ้งพาสไว้ในจุดที่หยิบง่าย จะได้สะดวกต่อการหยิบแสดงต่อเจ้าหน้าที่อยาก เที่ยวแบบประหยัด ต้องทำยังไง?
1. ควรวางแผนจองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้า เที่ยวแบบประหยัด การซื้อตั๋วเครื่องบินในราคาประหยัดแบบสุดๆนั้น ต้องมีการวางแผนล่วงหน้าเกือบเดือนเลยทีเดียว ก็เพราะว่าการซื้อตั๋วเครื่องบินล่วงหน้าก่อนเดินทางเป็นระยะเวลานานๆนั้นจะมีราคาถูกกว่าการซื้อตั๋วเครื่องบินก่อนเดินทางเพียงไม่กี่วัน และเนื่องจากปัจจุบันนี้มีเว็บไซต์จัดหาตั๋วเครื่องบินรวมถึงข้อมูลที่พักออนไลน์ทั่วโลกในราคาถูกส่งตรงถึงคุณโดยตรง จึงทำให้สะดวกและจองได้ง่ายในราคาประหยัดตามที่คุณ 1. ควรวางแผนจองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้า การซื้อตั๋วเครื่องบินในราคาประหยัดแบบสุดๆนั้น ต้องมีการวางแผนล่วงหน้าเกือบเดือนเลยทีเดียว ก็เพราะว่าการซื้อตั๋วเครื่องบินล่วงหน้าก่อนเดินทางเป็นระยะเวลานานๆนั้นจะมีราคาถูกกว่าการซื้อตั๋วเครื่องบินก่อนเดินทางเพียงไม่กี่วัน และเนื่องจากปัจจุบันนี้มีเว็บไซต์จัดหาตั๋วเครื่องบินรวมถึงข้อมูลที่พักออนไลน์ทั่วโลกในราคาถูกส่งตรงถึงคุณโดยตรง จึงทำให้สะดวกและจองได้ง่ายในราคาประหยัดตามที่คุณต้องการ อีกทั้งคุณสามารถตรวจสอบข้อมูลจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ เพื่อเช็คตารางบินและทริปอื่นๆที่น่าสนใจได้อย่างง่ายดาย หากยังไม่แน่ใจว่าจะไปเที่ยวไหนหรือยังไม่แน่ใจว่าจะไปเที่ยวเวลาใด ก็สามารถสืบค้นข้อมูลจองเอาไว้ล่วงหน้า หรือหาช่วงเวลาที่ตั๋วราคาถูกที่สุดผ่านหน้าเว็ปก็จะทำให้อุ่นใจมากขึ้น 2. เลือกสายการบินที่ตอบโจทย์ การเลือกตั๋วเครื่องบินที่ราคาถูกอย่างเดียวนั้นอาจยังไม่พอ เพราะเราต้องเลือกสายการบินที่คุ้มค่ามากที่สุดด้วย สำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดงบ แน่นอนว่าต้องเลือกสายการบินต้นทุนต่ำซึ่งได้ตัดค่าใช้จ่ายในส่วนที่คุณไม่ต้องการออกไปได้ ทั้งค่าอาหาร การเลือกที่นั่งที่ต้องการ หรือการโหลดกระเป๋า ก็จะทำให้เซฟรายจ่ายไปได้มาก แต่ถ้าคุณใช้บริการสายการบินอยู่เป็นประจำ การเลือกเที่ยวบินที่คุ้มที่สุดก็ต้องเป็นของสายการบินที่คุณสะสมไมล์อยู่นั่นเอง 3. ควรเปรียบเทียบราคาต่างๆก่อนการจอง ในปัจจุบันนี้เป็นเรื่องสะดวกและง่ายดายมากหากต้องการจะเปรียบเทียบราคาตั๋วเครื่องบินของแต่ละสายการบินเพื่อให้ได้เที่ยวบินราคาถูกที่สุด เพียงแค่กรอกเมืองต้นทางและปลายทางที่จะไปก็สามารถค้นหาข้อมูลเที่ยวบินทั้งหมดจากอินเตอร์เน็ตได้ภายในเวลาไม่กี่วินาที แต่ยังมีสิ่งที่ควรเช็คอีกเล็กน้อย ดังนี้ 4.1 ราคาในแต่ละวัน: หากคุณระบุวันเดินทางก่อนการค้นหาเลยอาจจะไม่เห็นว่าราคาตั๋วเครื่องบินใน 1 หรือ 2 วันถัดไปอาจถูกกว่า ลองขยับวันเดินทางหรือเลือกดูราคาตั๋วเครื่องบินทั้งเดือนเพื่อเห็นราคาเปรียบเทียบก่อนตัดสินใจ 4.2 เวลาเดินทาง: ผลการค้นหาจะแสดงราคาที่ถูกที่สุด และคุณสามารถเปรียบเทียบและเลือกเวลาบินได้เอง เพราะใช่ว่าเที่ยวบินที่ถูกที่สุดจะบินในเวลาที่คุณต้องการ ลองปรับเวลาออกเดินทางจากตัวกรองที่มีและดูผลการค้นหาอีกครั้ง 4.3 ต่อเครื่องที่ไหนบ้าง: ในกรณีที่เดินทางระยะไกลอาจมีการต่อเครื่อง 1 หรือ 2 จุดพัก หรือมากกว่านั้น ลองเปรียบเทียบสนามบินต่อเครื่องของแต่ละราคาดูก่อนตัดสินใจเลือกเที่ยวบินที่สามารถรับได้กับเวลารอต่อเครื่องที่ต้องเสียไป 4. ค้นหาพิกัดโรงแรมก่อน ตำแหน่งที่ตั้งของโรงแรมเป็นสิ่งที่จะชี้วัดว่าทริปของคุณจะเดินทางสะดวกและประหยัดได้แค่ไหน ซึ่งคุณสามารถค้นหาตำแหน่งของโรงแรมที่คุณสนใจพร้อมกับตรวจสอบสิ่งอำนวยความสะดวกรอบด้านได้จากแผนที่ออนไลน์ และระบบการค้นหาโรงแรมผ่านอินเตอร์เน็ต ซึ่งจะทำให้คุณเลือกโรงแรมที่ใกล้ชิดสิ่งอำนวยความสะดวกได้ในราคาคุ้มค่าที่สุด และเมื่อเลือกโรงแรมกับทำเลที่ถูกใจได้แล้วก็ได้เวลาจอง ซึ่งการจองโรงแรมล่วงหน้าก่อนเข้าพักเป็นระยะเวลานานมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็นการการันตีว่าคุณจะมีตัวเลือกและโอกาสได้ห้องพักถูกใจได้มากขึ้นเท่านั้น ซึ่งน่าแปลกว่าโรงแรมเดียวกันในห้องแบบเดียวกันของแต่ละผู้รับจองออนไลน์นั้นราคามักไม่เท่ากัน แต่แน่นอนว่าตอนนี้มีเว็ปไซต์ที่สามารถตรวจสอบข้อมูลที่คุณต้องการได้ สามารถเช็คและเปรียบเทียบราคาจากผู้รับจองออนไลน์ชั้นนำจากทั่วโลกอีกมากไปพร้อมๆ กันในคลิกเดียวเมื่อจองตั๋วเครื่องบินถูกได้โรงแรมที่คุ้มแล้ว ก็มาถึงเรื่องการเดินทางจากสนามบินไปโรงแรม และจากโรงแรมไปเที่ยวที่ต่างๆ ก็จำเป็นต้องศึกษาเส้นทางไว้ล่วงหน้า ว่าจะเดินทางอย่างไรให้ใกล้และประหยัดที่สุด ข้อแนะนำสำหรับหัวข้อนี้คือการเดินทางด้วยรถไฟและรถเมล์ท้องถิ่น ซึ่งประหยัดกว่าใช้บริการแท็กซี่เป็นอย่างมากและการวางแผนเดินทางยังช่วยลดความเสี่ยงเรื่องการหลงทางที่อาจทำให้เกิดค่าใช้จ่ายบานปลายได้อีกด้วย 5. คำนึงถึง การคมนาคมในการเดินทางท่องเที่ยว เมื่อคุณมีที่เที่ยวที่พักและวางแผนเส้นทางแล้ว คุณก็จะมองเห็นภาพรวมสำหรับการคมนาคมขอแนะนำสิ่งที่จะทำให้คุณประหยัดมากขึ้นนั่นคือการใช้บัตรโดยสารแบบเหมา โดยมีให้บริการในหลายๆประเทศทั่วโลก ด้วยการเหมาจ่ายค่าเดินทางแบบไม่จำกัดเที่ยวประเภทรายวันหรือรายสัปดาห์ หลายแห่งสามารถใช้บัตรเดียวได้ทุกระบบขนส่งมวลชนหรือมีส่วนลดในสถานที่เที่ยวขึ้นชื่อด้วย หรือหากคุณเดินทางกับเพื่อนเป็นกลุ่มเล็กๆ หรือไม่สะดวกต่อการคมนาคมสาธารณะในท้องถิ่น สิ่งที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางของคุณก็คือรถเช่า โดยทั่วไปรถเช่าก็มีตั้งแต่รถสี่ล้อเล็กไปจนถึงรถตู้ โดยคุณสามารถค้นหาผู้ให้บริการได้จากอินเตอร์เน็ต 6. ศึกษาจากรีวิวนั้นสำคัญ เป็นอีกวิธีการหนึ่งที่ช่วยให้ทริปท่องเที่ยวของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น ด้วยการศึกษาประสบการณ์การท่องเที่ยวและความรู้จากผู้ที่เคยเดินทางไปเที่ยวมาก่อน ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ จะอยู่ในหนังสือคู่มือหรือเรื่องเล่าใน Pantip จากบล็อกเกอร์ชื่อดังและนักท่องเที่ยวหน้าใหม่ๆ 7. แอพพลิเคชั่นช่วยได้ การใช้แอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน ช่วยให้เซฟค่าใช้จ่ายได้ ยกตัวอย่างเช่นการใช้ Google Maps นำทางสู่จุดหมายด้วยเส้นทางที่ใกล้และประหยัดที่สุด ซึ่งในแอพก็จะมีตัวเลือกให้คุณทั้งการใช้รถส่วนตัว ใช้ขนส่งมวลชน หรือเดิน พร้อมคาดการณ์ระยะเวลาและค่าใช้จ่ายเบื้องต้นให้ด้วย ทั้งนี้ก็ควรเช็คค่าเงิน หรืออัตราแลกเปลี่ยนเงินก่อนจ่ายเสมอด้วยการเตรียมตัวเป็นนักเดินทางที่ดี
ในการท่องเที่ยวแต่ละครั้งเราควรเตรียมตัวให้พร้อมดังต่อไปนี้
1. ให้เกียรติสถานที่ที่ไป ใช่ว่าคุณจะทำอะไรก็ได้ในต่างเมืองหรือดันทุรังทำสิ่งที่ตัวเองอยากทำโดยไม่สนใจสภาพแวดล้อมหรือกฎกติกามารยาทในสังคมนั้นๆ ลองคิดกลับกันว่าหากมีชาวต่างชาติมาทิ้งขยะหน้าบ้านเรา เราก็คงจะไม่ชอบเช่นกัน ดังนั้น นักเดินทางที่ดี ควรปฏิบัติตามมารยาทสากลหรือตามที่สถานที่ท่องเที่ยวนั้นกำหนดจะดีกว่า 2. ศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ หากคุณมีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าจะไปเที่ยวที่ใดก็ควรจะศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ เช่น เวลาเปิด-ปิด, ค่าเข้าชม รวมทั้งฤดูกาลที่เหมาะสมด้วย อย่างเช่น อุทยานแห่งชาติหรือเกาะบางเกาะที่มักจะมีฤดูเปิด-ปิดเพื่อฟื้นฟูธรรมชาติ เรื่องสภาพอากาศก็สำคัญ เพราะหากไปเที่ยวทะเลช่วงพายุเข้าคงไม่สนุกแน่ ๆ 3. เคารพวัฒนธรรมท้องถิ่น แม้ว่าคุณอาจจะไปพบเจอกับหลายๆ สิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในท้องถิ่นนั้น ก็อย่าเสียมารยาททำในสิ่งที่พวกเขาเชื่อ เช่น สถานที่ศักดิ์สิทธิ์บางแห่งที่อาจจะต้องถอดรองเท้าก่อนเข้า เป็นต้น คุณก็ควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด 4. ขออนุญาตก่อนถ่ายรูป กล้องถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยวถือเป็นของคู่กัน แต่ก็ไม่ใช่ว่าเห็นอะไรก็จะถ่ายไปเสียหมดเพราะสำหรับบางแห่งก็ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป เช่น ร้านที่ขายของจำพวกไอเดีย ตามตลาดนัดหรือถนนคนเดิน หรือแม้กระทั่งตัวบุคคลเอง ควรขออนุญาตถ่ายภาพทุกครั้ง 5. เรียนรู้คำประจำถิ่น ถือเป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่จะทำให้ทริปของคุณเติมเต็มมากขึ้น นั่นก็คือ การเรียนรู้คำประจำถิ่น เช่น คำว่าสวัสดี, ขอโทษ และขอบคุณ ถือเป็นคำยอดฮิตที่ใช้ได้เกือบจะทุกสถานการณ์ และแน่นอนว่าคำพวกนี้ก็หาได้ง่าย ๆ จากอินเทอร์เน็ต ดังนั้นก่อนการเดินทางก็อย่าลืมจดและจำคำพื้นฐานเหล่านี้ไว้ให้ดี 6. สร้างมิตรภาพ ต่างถิ่นต่างแดนหากสร้างมิตรไว้บ้างก็ดีไม่น้อย เผื่อว่าในอนาคตหากคุณกลับมาเที่ยวที่เดิมจะได้มีไกด์ช่วยแนะนำที่เที่ยว หรืออาจจะบอกคนที่คุณสร้างมิตรด้วยว่าหากมีโอกาสก็อย่าลืมมาเที่ยวในถิ่นของคุณบ้าง เผื่อมีอะไรจะได้ช่วยและแนะนำซึ่งกันและกัน 7. เข้าถึงท้องถิ่น การไปเที่ยวอย่างเข้าถึงท้องถิ่นนั้นๆ เป็นการสร้างสีสันการท่องเที่ยวของคุณได้ดียิ่ง เพราะนอกจากคุณจะสนุกกับที่เที่ยวที่ไม่มีอยู่ในหนังสือหรืออินเทอร์เน็ตแล้ว คุณยังจะได้เรียนรู้ท้องถิ่นนั้นจริงๆ ทั้งอาหารถิ่น ภาษาถิ่น หรือของดีประจำถิ่น 8. อย่าพลาดค้างคืนที่โฮมสเตย์ เพราะนอกจากจะได้บรรยากาศและกลิ่นอายของท้องที่นั้นแล้ว คุณยังจะได้สัมผัสถึงวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของผู้คนด้วย เรียกว่ารู้ลึกรู้จริงเสมือนเจ้าของถิ่นเลย 9. ชิมอาหารเลื่องชื่อให้ครบ คุณควรจะเปิดใจลิ้มลองรสชาติใหม่ๆ ที่ไม่คุ้นเคยบ้าง แล้วอย่าพลาดที่จะลิ้มรสอาหารประจำถิ่นชื่อดังให้ครบ นอกจากจะเพลิดเพลินแล้วบางทีคุณอาจจะพบเมนูโปรดจานใหม่ก็ได้นะ 10. ตั้งใจเที่ยวจริงๆ หากตั้งใจอยากมาเที่ยวพักผ่อนแล้วก็ควรมาเพื่อเที่ยวจริง ๆ โดยเก็บทุกความทรงจำทุกรายละเอียดไว้ ตั้งแต่ออกเดินทางพร้อมเรียนรู้ไปกับสิ่งแวดล้อมใหม่และปล่อยตัวเองให้ผ่อนคลายที่สุด 11. ออกนอกแผนบ้างก็ได้ การวางแผนเที่ยวเป็นเรื่องที่ดี อย่างน้อยคุณจะได้รู้เกี่ยวกับเวลาที่จำกัดและระยะเวลาการเดินทางจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง แต่หากพอมีเวลาเหลือจากกำหนดการที่คุณตั้งไว้แล้ว ก็อย่าลืมที่จะซอกแซกออกนอกเส้นทางบ้าง เพราะนอกจากจะทำให้คุณได้เรียนรู้ที่เที่ยวใหม่ๆ แล้วยังเป็นประสบการณ์สดใหม่ที่น่าตื่นเต้นด้วย 12. มีสติเสมอ ไม่มีทริปไหนที่จะสมบูรณ์แบบไปซะทุกอย่าง ถ้าไม่หลงทางก็อาจเจอกับสภาพอากาศไม่เป็นใจกันบ้าง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็อย่างหัวเสีย คิดเสียว่าทุกอย่างคือบทเรียนที่ทำให้คุณรอบคอบมากขึ้น และแม้จะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็ตั้งสติไว้ก่อน 13. เที่ยวด้วยตนเอง การเที่ยวแบบเป็นกรุ๊ปหรือแบบทัวร์นั้นจะอำนวยความสะดวกให้คุณมากกว่า แต่ก็อย่าลืมว่าค่าใช้จ่ายก็มากตามไปด้วย ที่สำคัญคุณยังจะต้องเที่ยวในสถานที่ซึ่งมีในโปรแกรมเท่านั้น อีกทั้งบางทีคุณอาจจะอยากแช่ตัวอยู่ในสถานที่ซึ่งคุณชื่นชอบสักครึ่งวัน แต่ตามโปรแกรมทัวร์ก็ให้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมง ดังนั้นลองเปลี่ยนที่เดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเองบ้าง เชื่อเลยว่าคุณจะติดใจแบบไม่ง้อทัวร์เลย 14. ค้นหาที่เที่ยวใหม่ๆ ลองสำรวจดูสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่มีในแผนที่บ้างก็ดี เพราะคุณไม่มีทางรู้เลยว่าหนทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร หากว่าคุณยังหยุดอยู่กับสถานที่ซึ่งคนอื่นบอกไว้ เพราะบางทีคุณอาจพบกับสถานที่เด็ดๆ น้อยคนจะเข้าถึงก็ได้ 15. ปล่อยให้ตัวเองมีอิสระ การเดินทางท่องเที่ยว คือ การพักผ่อนอย่างหนึ่ง ดังนั้นควรลืมเรื่องเครียดๆบ้างและก็ไม่ต้องคอยเช็คอีเมลตลอดเวลา หรือคอยเช็คโซเซียลบ่อยๆ ลองตัดขาดจากสิ่งเหล่านั้นดูสักพักแล้วปล่อยให้ตัวเองมีอิสระเต็มที่โดยไม่ต้องกังวลเรื่องอื่นๆ ใช้เวลาตักตวงความสุขที่อยู่ตรงหน้าให้มากที่สุด 16. นั่งรถสาธารณะ หลายคนเลือกที่จะเดินทางโดยเครื่องบินซึ่งใช้เวลาไม่นาน แต่ถ้าคุณอยากลิ้มรสประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบเต็มรูปแบบจริงๆ แนะนำว่าควรเริ่มตั้งแต่การออกเดินทางโดยการใช้บริการรถสาธารณะหรือรถไฟดูบ้าง รับรองว่าทิวทัศน์สวยๆ ข้างทางจะทำให้คุณต้องทึ่งแน่นอน 17. ไปในที่ที่อยากไปจริง ๆ ใครๆก็อยากไปเที่ยวสถานที่ยอดฮิตหรือแลนด์มาร์กของแต่ละประเทศทั้งนั้น เพราะไม่อย่างนั้นเหมือนว่ายังมาไม่ถึง แต่อย่าอิงกับกระแสมากเกินไปเพราะบางทีที่ที่คุณอยากไปจริงๆ อาจจะเป็นแค่ทะเลสงบๆชมแนวปะการังให้คุณแหวกว่ายได้ทั้งวันก็เป็นได้ 18. เพราะชีวิตคือการเดินทาง หากคุณเป็นคนที่รักการเดินทางท่องเที่ยวอย่างแท้จริง อย่าหยุดที่จะค้นหาที่เที่ยวใหม่ๆหรือมองที่เที่ยวเดิมๆในมุมมอง และอย่าลืมเปิดใจกับสิ่งต่างๆ ที่เข้ามาทั้งอุปสรรคหรือปัญหาระหว่างการท่องเที่ยวด้วยสนุกกับ การท่องเที่ยวด้วยตนเอง คู่มือเบื้องต้นสำหรับมือใหม่
Categories:
บทความท่องเที่ยว, บทความน่ารู้, รวมบทความ
สนุกกับ การท่องเที่ยวด้วยตนเอง คู่มือเบื้องต้นสำหรับมือใหม่
เมื่อการท่องเที่ยวฟเฟื่องฟู นักเดินทางหน้าใหม่หลากหลายเจนเนอร์เรชั่นมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ผู้คนที่รักการเดินทางต่างใส่ใจกับวางแผนกับ การท่องเที่ยวด้วยตนเอง มากอย่างรัดกุมมากขึ้น ทั้งนี้ก็เพื่อให้สอดคล้องกับเรื่องเวลาและงบที่มีอยู่ เพราะความสุขที่ได้จากการเดินทางนั้นวิเศษเสมอ ฉะนั้นกลุ่มนักท่องเที่ยวเกือบทั่วโลกต่างพากันไปเสาะแสวงหาเป้าหมายที่ตนเองชื่นชอบและใฝ่ฝันตามสถานที่และเมืองต่างๆที่แตกต่างและไม่คุ้นเคย บ้างเดินทางไปกับเพื่อนกับครอบครัวหรือกับคนรัก แต่ก็มีจำนวนไม่น้อยที่รักการเดินทางด้วยตนเองแบบแบ็คแพ็ค Backpacker เพราะท้าทายและตอบโจทย์กับชีวิตมากกว่านั่นเอง เจนีส วอ (Janice Waugh) ผู้เขียนหนังสือ The Solo Traveller's Handbook แนะนำเคล็ดลับสำคัญสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวด้วยตนเองไว้ได้อย่างน่าสนใจ ใครที่กำลังวางแผนที่จะเดินทางท่องเที่ยวคนเดียว ควรลองอ่านข้อแนะนำต่อไปนี้ซึ่งเป็นสุดยอดเคล็ดลับจากนักท่องเที่ยวมืออาชีพเพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยวด้วยตัวเอง โดยเราได้เรียบเรียงข้อมูลใหม่จากบทความที่เป็นประโยชน์ของเจนีส วอ ผู้เขียนหนังสือ The Solo Traveller's Handbook เพื่อให้ทุกท่านได้เข้าใจชัดเจนยิ่งขึ้น ดังนี้- การมองหาที่พัก ควรเลือกที่พักประเภทเกสต์เฮาส์ โฮสเทล ห้องพักที่มีบริการอาหารพร้อม (B&B) หรือโรงแรมเล็กๆ (Pension) เพราะปกติแล้วที่พักเหล่านี้จะเปิดโอกาสให้คุณได้พบกับผู้คนท้องถิ่นที่อัธยาศัยดีๆได้มากกว่าโรงแรมหรู
- สภาพภูมิอากาศ ควรเผื่อเวลาไว้หนึ่งวัน สำหรับการปรับตัวคุณเองให้เข้ากับสภาพอากาศของพื้นที่จุดหมายปลายทางในแต่ละแห่ง
- การเลือกร้านอาหาร/แหล่งที่กิน
- ควรเลือกร้านอาหารที่มีบาร์และนั่งที่ตรงบาร์นั้น เพราะอาจจะได้รู้จักใครสักคนที่มีมิตรภาพดีๆ ตรงนั้นก็เป็นได้
- ควรเลือกร้านที่มีโต๊ะกลางให้นั่งร่วมกัน หรือร้านกาแฟที่เป็นจุดนัดพบของบรรดาฟรีแลนซ์ ร้านแบบนี้คือสถานที่พบปะสังสรรค์ที่จะได้พบผู้คนในพื้นที่ และมักจะมี Wi-Fi ให้ใช้ฟรีๆ ทำให้ไม่ขาดการติดต่อกับครอบครัว
- ควรพกหนังสือติดมือไปด้วย นอกจากจะช่วยอ่านฆ่าเวลาแล้ว ยังเป็นการส่งสัญญาณบอกคนที่มาเที่ยวคนเดียวเหมือนกันอีกด้วย ซึ่งอาจทำให้คุณมีเพื่อนใหม่ๆและพูดคุยถึงเรื่องรสนิยมในการอ่านเช่นเดียวกันกับคุณ
- ลองเอ่ยปากขอร่วมโต๊ะกับคนที่มาคนเดียวดูบ้าง ในกรณีที่ไม่สะดวกก็อาจได้รับเพียงคำปฏิเสธเท่านั้น
- เลือกกินมื้อหลักในเวลากลางวัน เพราะจะได้อาหารที่คุ้มค่าในราคาประหยัด
- หากคุณจะออกเที่ยวในตอนกลางคืน คุณควรเขียนโน้ตทิ้งไว้ในห้องหรือแปะไว้ที่หน้ากระจกหรือตู้เย็นพักว่าคุณจะไปที่ไหนและตั้งใจจะกลับมาเมื่อไหร่ หรือกำลังจะไปพบใครไปกับใคร ก็ให้เขียนชื่อคนๆนั้นไว้ด้วย เพื่อความปลอดภัยเมื่อมีอะไรที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นก็จะได้มีคนตามหาตัวคุณได้นั่นเอง
- ควรพักผ่อนให้เพียงพอและอย่าเมา การมีสติสัมปชัญญะครบถ้วนนั้นเป็นสิ่งสำคัญมากเมื่อคุณเดินทางคนเดียว อย่าปล่อยให้ตนเองดื่มแอลกอฮอล์จนขาดสติ อย่าประมาท ต้องรักษาตัวรอดถึงจะดี
- เรื่องค่าใช้จ่าย ควรวางแผนล่วงหน้าในเรื่องเกี่ยวกับเงินและค่าใช้จ่ายต่างๆ ควรจัดเตรียมเงินติดตัวในปริมาณที่พอใช้และมีไว้เผื่อฉุกเฉิน สำรองไว้ดีกว่าต้องแลกเพิ่มเพราะอาจได้อัตราที่ไม่ดีและมีค่าธรรมเนียมสูง ควรใช้วิธีกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็ม แต่อย่ากดเงินออกมาทีละมากๆในครั้งเดียว หรือหาบัตรเดบิตมาใช้และเก็บเงินสำรองสำหรับกรณีฉุกเฉินแยกไว้อีกที่ต่างหากจากที่เก็บเงินสำหรับใช้ปกติ
- ไม่ควรขาดการติดต่อ ควรซื้อโทรศัพท์มือถือแบบที่ปลดล็อกแล้ว เพื่อที่คุณจะได้ซื้อซิมการ์ด (SIM card) ของแต่ละประเทศที่เดินทางไปถึงมาใช้ ถือเป็นการประหยัดเงินด้วยและควรดาวน์โหลดโปรแกรมที่ใช้ในการสื่อสาร เช่น Skype, Line มาไว้ในโทรศัพท์ของคุณ เพื่อจะได้คุยกับเพื่อนและครอบครัวได้ทุกครั้งที่คุณสามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย หรือจะใช้ระบบบริการข้ามแดน (roaming) ในต่างประเทศก็ได้
- ของสำคัญ ควรเก็บของสำคัญๆสำหรับตัวคุณเอาไว้ในที่เดียวกันในเป้หรือกระเป๋าที่สามารถตรวจเช็คได้ง่ายๆ เช่น พาสปอร์ต กล้องถ่ายรูป บัตรโดยสารเดินทาง และโทรศัพท์เคลื่อนที่ ของเหล่านี้เป็นสิ่งที่ควรจะตรวจเช็คดูเมื่อรู้สึกว่าจำเป็น
- การเก็บเอกสารต่างๆ ควรทำสำเนาเอกสารสำคัญให้คนที่บ้านเก็บเอาไว้หนึ่งชุด และส่งเข้าอีเมลตัวเองไว้ด้วย ส่วนสำเนาอีกหนึ่งชุดให้เก็บไว้ในกระเป๋าเดินทาง แยกต่างหากจากตัวต้นฉบับ พกเอกสารสำคัญไว้ในที่ที่ปลอดภัย เช่น ในกระเป๋าคาดเอว
- คำนึงถึงความปลอดภัยเบื้องต้น คุณควรจัดเวลาให้ตัวคุณเองไปถึงสถานที่เป้าหมายในตอนเช้าไม่ควรไปถึงตอนที่มืดแล้ว รวมถึงพยายามอยู่ในที่ที่มีผู้คนพลุกพล่านเสมอ ควรขอความช่วยเหลือจากคนแปลกหน้าที่คิดว่าไว้ใจได้ถ้าคุณรู้สึกว่าไม่ปลอดภัย อย่ากลัวกับการที่จะโวยวายเสียงดังถ้าหากว่ามีผู้ไม่ประสงค์ดีเข้ามารบกวนการท่องเที่ยวของคุณ
เตรียมพร้อมไปเดินป่า กันเถอะ
Categories:
บทความท่องเที่ยว, รวมบทความ