Sportlifeonline ชวนคุณออกเดินป่า กิจกรรมสุดท้าทายของคนรักการผจญภัย
Categories:
บทความน่ารู้, รวมบทความ
Sportlifeonline ชวนคุณออกเดินป่า กิจกรรมสุดท้าทายของคนรักการผจญภัย
Sportlifeonline ชวนคุณออกเดินป่า เพราะธรรมชาติรอบตัวคือความอัศจรรย์ที่รอเราไปค้นพบความสวยงามและความประทับใจ เมื่อกายและใจพร้อม เราอยากเชิญชวนคุณออกเดินท่องเที่ยวป่าเขาไปด้วยกัน แต่ก่อนที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวศึกษาธรรมชาติในป่านั้น ต้องมีการเตรียมตัวให้พร้อม และวางแผนการเดินป่าให้รัดกุม ซึ่งมีรายละเอียดที่น่าสนใจดังนี้

การเดินป่ามีหลักการดังต่อไปนี้
1. เดินอย่างออมกำลัง 2. ฝึกสายตาให้คุ้นเคยกับสภาพป่า 3. ระหว่างที่เดินไม่ควรส่งเสียงดังจนเกินไป 4. พยายามเดินตามทางเดินเท้า 5. พยายามปกปิดทุกส่วนของร่างกายให้มิดชิด 6. เดินแถวเรียงเดี่ยว ควรทิ้งระยะห่างกันพอสมควร แต่ต้องให้อยู่ในสายตาของกลุ่มตลอด 7. เดินทางด้วยความเร็วสม่ำเสมอ พักทุก ๆ ชั่วโมง ครั้งละประมาณ 5-10 นาที 8. ไม่ควรแยกเดินไปคนเดียว ไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน ต้องมีเพื่อนไปด้วยทุกครั้ง
เส้นทางเดินป่าออกเป็น 5 ระดับ
• ระดับ 1 Nature trail เส้นทางสำหรับเรียนรู้เรื่องราวของธรรมชาติเป็นหลัก ระยะทางไม่ไกลเกิน 6 กิโลเมตร ใช้เวลาเดิน 3-4 ชั่วโมง ไม่มีการพักค้างในเส้นทาง เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย ภายในเส้นทางมีสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย เช่น ทางเดินลาดชัน ป้ายสื่อความหมายธรรมชาติ ป้ายบอกทาง ป้ายเตือน สะพาน ราวกันตก เป็นต้น อาจจะมีหรือไม่มีเจ้าหน้าที่นำทาง นักท่องเที่ยวไม่จำเป็นต้องมีทักษะในการเดินป่าก็ได้ • ระดับ 2 Hiking or Beginner Trekking เส้นทางเดินป่าสำหรับมือใหม่ ผู้เริ่มต้นเดินป่า สภาพเส้นทางมีความลาดชันบ้างแต่ไม่มากนัก ระยะทางรวมในการเดินไม่เกิน 15 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินติดต่อกันไม่เกิน 6 ชั่วโมง อาจมีการพักค้างในป่าแต่ไม่เกิน 1 คืน มีสิ่งอำนวยความสะดวกตามความจำเป็น เช่น ป้ายบอกทาง ควรมีเจ้าหน้าที่นำทาง นักท่องเที่ยวต้องมีทักษะเบื้องต้นในการเดินป่า เช่น การเดินขึ้นลงที่สูง มีการเตรียมสภาพร่างกายค่อนข้างพร้อม • ระดับ 3 Advanced Trekking เส้นทางเดินป่าที่เน้นการเดินไปยังจุดหมาย เช่น ยอดเขา สภาพเส้นทางมีความลาดชันค่อนข้างมาก อาจจะมากกว่าครึ่งหนึ่งของเส้นทาง ต้องพักค้างแรม และยังชีพในป่าอย่างน้อย 2-3 วัน ต้องเดินติดต่อกันอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ ในเส้นทาง ต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง นักท่องเที่ยวต้องมีทักษะและประสบการณ์ในการเดินป่า พักค้างและยังชีพในป่ามาในระดับหนึ่ง • ระดับ 4 Difficult Trekking เส้นทางเดินป่าระดับยากหรือการเดินป่าแบบหนักหน่วง สภาพเส้นทางมีความลาดชันสูง ระยะทางไกล ต้องพักแรมและยังชีพในป่าอย่างน้อย 3-4 วัน เดินติดต่อกันอย่างน้อย 8 ชั่วโมงต่อวัน ภายในเส้นทางไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก ต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง นักท่องเที่ยวต้องมีทักษะและประสบการณ์ในการเดินป่าและยังชีพในป่ามาค่อนข้างมาก • ระดับ 5 Extreme Trekking เส้นทางเดินป่าระยะไกลที่มีสภาพเส้นทางหนักและโหด มีความยากลำบากทั้งการเดินและการดำรงชีพในป่า เส้นทางเป็นลักษณะกึ่งสำรวจผจญภัย ไม่กำหนดเป้าหมายในการเดินแต่ละวันไว้แน่นอน แต่มีเป้าหมายในการเดินในเส้นทางไว้ชัดเจน พักแรมและยังชีพในป่าตั้งแต่ 4 วันขึ้นไป เดินติดต่อกันอย่างน้อย 8 ชั่วโมงต่อวัน ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก ต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง นักท่องเที่ยวต้องมีทักษะและประสบการณ์ในการเดินป่า และการพักแรมในป่าอย่างดี
คำแนะนำเพิ่มเติม
สำหรับนักเดินป่า ไม่ว่าจะเป็นนักเดินป่ามือใหม่หรือมืออาชีพ ทุกครั้งที่ตัดสินใจไปเดินป่า ต้องมีการเตรียมตัวให้พร้อมกับสิ่งที่จะต้องเจอ ทั้งสภาพเส้นทางและอากาศรวมไปถึงเหตุการณ์เฉพาะหน้าที่อาจเกิดขึ้น นั่นหมายถึงต้องศึกษาเพื่อเตรียมทุกอย่างให้รอบคอบและพร้อมที่สุดก่อนออกเดินทาง สิ่งสำคัญที่สุดอีกสิ่งหนึ่งของการเดินป่าที่นักเดินป่าทุกคนต้องใส่ใจนั่นคือ สภาพร่างกาย เพราะการเดินป่าต้องอาศัยกำลังกายในการเดินและแบกสัมภาระส่วนตัว ทางที่ดีที่สุดคือควรเลือกเส้นทางเดินป่าที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายหรือต้องเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับสิ่งที่ต้องเตรียมความพร้อมก่อนออกเดินป่ามีดังนี้ • เรียนรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์และเสื้อผ้าที่เหมาะสม การทำอาหาร ทักษะการเอาตัวรอด และการปฐมพยาบาลเบื้องต้น • ทำการเดินทางไกลระยะสั้นสองสามครั้งเพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับการเดินป่า การเดินทางไกลสักครั้งอาจพักแรมข้ามคืน เรียนรู้เกี่ยวกับการใช้แผนที่และเข็มทิศ หากอยู่ในวิสัยให้เรียนรู้การใช้อุปกรณ์ GPS หรืออุปกรณ์วิทยุสื่อสาร • วางแผนการเดินทาง รวมถึงเขียนวัตถุประสงค์ ตารางการเดินทางอย่างสมบูรณ์ เส้นทาง ทิศทางการเดิน ข้อมูลติดต่อฉุกเฉินและแผนที่ เตรียมรายการของที่จะจัดลงกระเป๋า