จัดการปัญหา รองเท้าวิ่งกัด
Categories:
บทความน่ารู้, รวมบทความ
จัดการปัญหารองเท้าวิ่งกัด ด้วยเคล็ดลับดีๆจาก Sportlifeonline
ปัญหา รองเท้าวิ่งกัด เป็นปัญหาที่สามารถหลีกเลี่ยงได้หากว่าเราใช้งานรองเท้าคู่ใหม่ของเราอย่างถูกวิธี เพราะปัญหารองเท้ากัดเป็นปัญหาที่จะเกิดขึ้นหลังการใช้งานไปเป็นระยะเวลาหนึ่งไม่ได้เกิดขึ้นในทันทีทันใดที่สวมรองเท้า แต่จะรู้สึกเมื่อใช้งานไประยะหนึ่งแล้วยังคงฝืนใส่รองเท้าคู่ดังกล่าวต่อไป ทำให้รู้สึกไม่สบายเท้ามากขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดก็โดนรองเท้ากัดไปแล้ว บางทีปัญหารองเท้ากัดนั้นเกิดจากพฤติกรรมการใช้งานที่ผิดวิธีของตัวผู้ใส่เอง แต่อย่างไรก็ไม่ต้องกังวลเพราะทาง Sportlifeonline มีเคล็ดลับดีๆมาฝากในเรื่องของการป้องกันรองเท้ากัด
เคล็ดไม่ลับจัดการก่อนรองเท้ากัด
1. คลายเชือกตลอดทุกรู สวมรองเท้า และมัดเชือกให้กระชับแน่นแล้วลองดูว่ารู้สึกอย่างไรบ้าง รู้สึกว่ามันคับไปไหมแน่นหรือไม่ มีบริเวณใดที่รู้สึกไม่สบายเท้าไหมเท้าเลื่อนไปมาในรองเท้าหรือไม่ ส้นเท้าลื่นหรือไม่ หากว่าเรารู้สึกว่ามันพอดีกับเท้าไม่มีอาการไม่สบายเท้าในส่วนใดส่วนหนึ่ง โอกาสที่รองเท้าคู่นั้นๆจะกัดก็จะน้อยมากๆ ในทางกลับกันหากว่าลองสวมแล้วรู้สึกไม่สบายเท้าเอามากๆ ไม่ว่าจะคับไปหรือหลวมไปหรือเกิดอาการไม่สบายเท้าใดๆก็แล้วแต่ ทางที่ดีที่สุดคือการนำไปเปลี่ยนไซส์ใหม่ให้เหมาะสม หรือเปลี่ยนเป็นรุ่นอื่นที่เข้ารูปเท้ามากกว่าไปเลย 2. อีกสิ่งสำคัญสำหรับการใส่รองเท้าคู่ใหม่ครั้งแรกก็คือ ควรใช้ถุงเท้าที่คุณภาพดี และปกปิดทั้งส้นเท้าและข้อเท้า ไม่สำคัญว่าจะต้องเป็นของยี่ห้อไหน เพียงแค่ขอให้คุณภาพถุงเท้าที่ใช้นั้นยังดี กระชับ ไม่ย้วย สวมใส่สบายก็เพียงพอแล้ว ไม่ควรใช้ถุงเท้าประเภทที่เปิดถึงแค่ข้อเท้าเนื่องจากว่าถุงเท้าอาจเลื่อนลงไประหว่างการใช้งาน เปิดให้ผิวหนังเสียดสีกับรองเท้าโดยตรง 3. หากว่าเราใช้งานรองเท้าคู่นั้นไปเป็นระยะเวลานานในระดับหนึ่งแล้ว รองเท้าอาจจะเริ่มเสื่อมสภาพลง โดยเฉพาะพวกพลาสติกที่จะเริ่มอ่อนตัวลง ทำให้เริ่มรู้สึกถึงปุ่มทิ่มเท้ามากขึ้นหรือส่วนบุด้านในบริเวณข้อเท้าและส้นเท้าที่จะเริ่มค่อยๆเสื่อมตัวลง จนนำไปสู่ปัญหารองเท้ากัดได้เช่นกัน ซึ่งหากเป็นปัญหาเหล่านี้แล้วล่ะก็อาจจะถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนรองเท้าคู่ใหม่เสียแล้ว
ข้อควรระวังขณะวิ่ง
1. ปวดท้องระหว่างวิ่ง การวิ่งเป็นกีฬาที่ต้องเคลื่อนไหวอยู่ตลอด ซึ่งทำให้เกิดความกดดันขึ้นที่ช่วงท้องได้ง่ายสาเหตุที่เราปวดท้องระหว่างวิ่งนั้นมีอยู่หลายอย่างแต่ประเด็นหลักก็คือเรื่องอาหารการกิน เราควรกินอาหารให้เสร็จก่อนที่จะวิ่งราวๆ 2-4 ชั่วโมง ไม่ควรกินอาหารมื้อใหญ่ๆ ในช่วงก่อนวิ่งกระชั้นชิดมากนัก เพราะถ้าในกระเพราะยังมีการย่อยอาหารเกิดขึ้น ต้องมีเลือดไปเลี้ยงส่วนท้องเพื่อให้กระบวนการย่อยอาหารนั้นเสร็จสิ้นแต่เรากำลังวิ่งอยู่ทำให้เลือดสูบฉีดไปทั่วร่างกาย ไปเลี้ยงช่วงท้องไม่เพียงพอทำให้เกิดอาการผิดปกติและปวดท้องได้ ดังนั้นถือเป็นข้อห้ามเลย และควรดื่มน้ำให้เพียงพอระหว่างวิ่งและก็ไม่ดื่มเยอะจนจุกด้วย 2. รองเท้ากัดบางทีอาการนี้มันก็เกิดขึ้นมาแบบเราไม่คาดคิดเหมือนกัน เรื่องรองเท้ากัดจนเป็นตุ่มน้ำใส หรือหนังฉีกไปเลยแบบนี้สาเหตุก็คืออย่างที่เราทราบๆ กัน การสวมใส่รองเท้าคู่ใหม่ที่ยังไม่ชินเท้า ก็ทำให้เกิดอาการรองเท้ากัดได้ รวมถึงการวิ่งในสภาพที่เปียก รองเท้าถุงเท้าเปียก แบบนี้ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้อาการรองเท้ากัดเกิดขึ้นได้เช่นกัน ถ้าเกิดขึ้นระหว่างกำลังแข่งวิ่งอยู่นี่มันจะแสบจนแทบวิ่งต่อไม่ไหวทีเดียวแต่วิธีรักษาเบื้องต้นให้วิ่งต่อได้ยังพอมีอยู่ แต่ต้องระวังมากๆ นั่นคือการเอาเข็มเจาะบีบน้ำใสให้ออกมาโดยอย่าให้หนังเราถลอก และหาพลาสเตอร์ปิดแผลมาปิดไว้แน่นๆ นั่นพอที่จะทำให้เราวิ่งต่อไปได้ แต่ก็ต้องระวังไม่ให้เกิดการเสียดสีในบริเวณที่รองเท้ากัดดังกล่าว 3. เลือดคั่งที่เล็บ เป็นอีกอาการสำหรับนักวิ่งระยะทางไกลอีกเช่นกันสาเหตุที่เกิดอาการนี้ขึ้นก็คือ มีการกดและเสียดสีกับเล็บแบบซ้ำไปซ้ำมา เกิดขึ้นได้ตั้งแต่การที่เราไว้เล็บยาวเกินไป หรือรองเท้าคับและบีบนิ้วเท้าจนเกินไปวิธีป้องกันคือการตัดเล็บนิ้วเท้าให้สั้นอยู่เสมอ และเลือกไซส์รองเท้าที่ไม่คับจนเกินไป หรือหาอะไรมาพันที่นิ้วก็ช่วยได้เช่นกัน หากเกิดอาการนี้แล้วอีกไม่นานเล็บจะหลุดออกมา และต้องรอเล็บขึ้นใหม่นานหลายเดือนเลยทีเดียว ดังนั้นป้องกันเอาไว้ก่อนจะดีกว่า
วิธีง่ายๆป้องกันรองเท้ากัด
1.นำเทียนไขมาถูรองเท้า ตามขอบหรือบริเวณที่รองเท้าจะกัด ขี้ผึ้งจะช่วยให้รองเท้านิ่มและลื่น ทำให้ใส่ง่ายขึ้น 2.ทาออยล์หรือน้ำมันที่ด้านในรองเท้า บริเวณที่รองเท้าจะกัด ทิ้งไว้ 2 - 3 วัน น้ำมันจะช่วยให้รองเท้านุ่มขึ้น ป้องกันรองเท้ากัดได้ 3.ทาวาสลีนหรือปิโตรเลียมเจลลี่ลงบนรองเท้าบริเวณที่เป็นปัญหา ทิ้งไว้ 2- 3 ชั่วโมง จากนั้นเช็ดออกให้สะอาดแล้วค่อยนำไปใส่ 4.ใช้ผ้าหรือสำลีชุบน้ำแล้วทาให้ทั่วด้านในรองเท้าจนชื้น จากนั้นขยำกระดาษหนังสือพิมพ์ใส่เข้าไปในรองเท้าจนเต็ม ทิ้งไว้ประมาณ 24 ชั่วโมง ค่อยนำรองเท้ามาใส่ 5.โรยแป้งที่เท้า และทาที่ด้านในรองเท้าทุกครั้งก่อนที่จะใส่รองเท้าคู่ใหม่ ความลื่นของแป้งจะช่วยให้เท้าไม่เสียดสีกับด้านในของรองเท้า ช่วยดูดความชื้น และช่วยให้ใส่รองเท้าสบายขึ้น